คุณรู้หรือไม่การนอนกรนเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม และมีอันตรายถึงชีวิต เพราะเป็นการทำงานผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ การนอนกรนจึงไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ ที่จะมองข้ามไป
การนอนกรนเกิดได้ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ แต่สาเหตุการนอนกรนของแต่ละคนแตกต่างกัน ทว่ายิ่งอายุมากยิ่งมีโอกาสเกิดการนอนกรนเนื่องจากกล้ามเนื้อด้านในหย่อนคล้อย
การนอนกรนเป็นผลของการที่ทางเดินหายใจตอนบนตีบแคบลงหรือถูกปิดกั้น ทำให้หายใจไม่สะดวก และเกิดเสียงกรนขึ้น เนื่องจากขณะนอนหลับกล้ามเนื้อของคอ ลิ้น และโค้นลิ้นจะเกิดการคลายหรืออ่อนตัวลงปิดช่องทางหายใจ อากาศที่่เคลื่อนผ่านทางเดินหายใจจึงแคบลง จนเกิดการสั่นหรือกระพือของเนื้อเยื่อคอ เช่น ทอนซิล เพดานอ่อน ลิ้นไก่ ซึ่งการสั่นสะเทือน (Vibrate) ดังกล่าวทำให้เกิดเสียงกรน
โดยปกติผู้ชายจะมีอัตราการนอนกรนมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะคนอ้วน ผู้สูงวัย ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หรือโรคจมูกอักเสบ ผู้ที่ทำงานหักโหม ออกกำลังกายมากเกินไป ดื่มสุรา สูบบุรี่ หรือรับประทานยานอนหลับ
ทำให้ปิดกั้นทางเดินหายใจ พบในผู้หลับลึก ผู้ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ผู้ที่ใช้ยานอนหลับ และผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ที่พบได้มาก เนื่องจากเมื่ออายุเพิ่มขึ้นทำให้เกิดการหย่อนยานของอวัยวะต่างๆ ภายในลำคอ
พบในผู้ป่วยภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ ริดสีดวงจมูก หรือผู้ที่มีโครงสร้างจมูกผิดปกติ เช่น ผนังกั้นช่องจมูกคด ฯลฯ
พบในคนอ้วน น้ำหนักตัวมาก คอหนาหรือมีขนาดรอบคอมากกว่า 43 ชม. มีต่อมทอนซิล ต่อมแอทีนอยด์โต ลิ้นโต มีเนื้องอก หรือถุงน้ำของระบบทางเดินหายใจส่วนบน
ทำให้ทางเดินหายใจหลังจมูกและลำคอตีบแคบ
ทำให้เกิดอาการแห้ง บวม ทางเดินหายใจจึงแคบลง และเกิดเป็นเสียงกรน
หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม การนอนกรนมีโอกาสก่อให้เกิดโรคหลายอย่างขึ้น เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดสมอง เส้นเลือดในสมองแตก เบาหวาน อัลไซเมอร์ ฯลฯ รวมทั้งมีอันตรายถึงชีวิตจากภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับด้วย (Obstructive sleep apnea : OSA)
การรักษาอาการนอนกรนมีตั้งแต่การใช้ยา ใช้อุปกรณ์เครื่องมือ การผ่าตัด หรือรักษาด้วย ‘Snoreless’ เทคโนโลยีเลเซอร์ลดการนอนกรน ที่ช่วยให้เพดานลิ้นไก่ด้านในช่องปากกระชับขึ้น ไม่ให้ลิ้นไก่ปิดกั้นทางเดินหายใจ โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่มีการใช้เข็มใดๆ รวมทั้งไม่ทำให้เกิดรอยแผล รักษาได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการแก้ปัญหาการนอนกรน
‘วิตามินอี’ ถูกนำมาเป็นส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ดูแลอย่าแพร่หลาย เนื่องจากเป็นสารบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยชะลอความแก่ชรา และลดเลือนรอยแผลเป็นให้ผิวกลับเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
มาดูกันค่ะว่า Ultherapy หรือ อัลเทอร่า มาตรฐาน US-FDA ที่ได้รับการขนานนามว่า…เป็นที่สุดแห่งเทคโนโลยี ยกกระชับใบหน้า ตอบโจทย์ทุกวัย สามารถคงความยกกระชับและความอ่อนเยาว์ให้คุณในแต่ละช่วงวัยได้อย่างไร? >>>
นาทีนี้ถ้าถามว่าเครื่องยกกระชับผิวเครื่องไหนดีที่สุด ก็คงต้องบอกว่าเป็น ulthera แต่จริงๆ แล้ว มีเทคนิคใหม่ที่ออกมาและมีประสิทธิภาพดีกว่าอย่าง Ulthera spt ที่การยกกระชับมีคุณสมบัติคล้ายกัน แต่สำหรับเทคนิคใหม่มีข้อดีหลายๆอย่างที่ใครหลายคนอาจจะสงสัยว่ามีข้อดีอะไรบ้าง แตกต่างจากรุ่นเก่าอย่างไร พงศ์ศักดิ์คลินิกจะพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อมๆกัน สามารถเลื่อนอ่านกันได้เลย เทคนิคใหม่ล่าสุด Ulthera spt กับคุณสมบัติสุดพิเศษ สำหรับเครื่อง Ulthera spt จัดว่าเป็นเครื่องยกกระชับใบหน้า ที่นำเทคโนโลยีต่างๆมาเสริมสร้างการยกกระชับใบหน้าได้ดีกว่าเดิม และสามารถปรับระดับให้เข้ากับผิวหน้าของแต่ละคนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถ้าหากให้ลิสต์เป็นข้อๆสามารถสรุปได้ ดังนี้ 1.เครื่องยกกระชับใบหน้าและสามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้แบบ Real-Time โดยมีระบบ SPT ที่จะช่วยแพทย์ประเมินการรักษาได้เป็นอย่างดี โดยระบบที่ว่าจะสามารถมองเห็นชั้นผิวหนังของใบหน้าแทบทั้งหมดหรือก็คือ สามารถเห็นปัญหาของผิวของแต่ละคนได้นั่นเอง 2.แพทย์สามารถประเมินสภาพผิวของผู้รับบริการได้ ทำให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมเพราะปัญหาผิวบริเวณใบหน้านั้น เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและต้องวางแผนการรักษาให้ถูกต้อง 3.ในการยกกระชับใบหน้าด้วย Ulthera spt จะสามารถยกกระชับบริเวณใบหน้าได้อย่างตรงจุดและเข้าไปแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างดีเยี่ยม จึงเห็นผลลัพธ์ได้ดีกว่ารุ่นก่อน 4.การเลือกใช้ Ulthera spt เป็นการยกระดับความปลอดภัยจากรุ่นก่อนได้ เพราะสามารถประเมินสภาพผิวหรือชั้นผิวหนังก่อนการรักษาได้นั่นเอง และนี่คือจุดเด่นของเครื่อง Ulthera spt ที่เน้นเสนอจุดเด่นที่เครื่องรุ่นเก่าไม่มี แต่ใช่ว่าเครื่องรุ่นเก่าไม่ดีหรือรักษาแล้วไม่ได้ผล เพราะถ้าหากรับบริการเครื่องรุ่นเก่าก็สามารถยกกระชับได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าอยากเพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับที่ดีกว่าเดิม แนะนำว่าให้ใช้เครื่อง Ulthera spt […]
