การยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และสองเทคนิคที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) และ Ulthera (Ultherapy) หลายคนอาจสงสัยว่าเทคนิคทั้งสองนี้แตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนเหมาะกับใคร วันนี้เรามาเปรียบเทียบและแนะนำให้เข้าใจกันง่าย ๆ กัน
HIFU vs Ulthera ต่างกันอย่างไร เลือกทำแบบไหนให้เหมาะกับตนเอง
ทั้ง HIFU และ Ulthera ต่างก็เป็นเทคโนโลยีเพื่อการยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีหลักการทำงานคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในรายละเอียด ซึ่งจะส่งผลต่อระสิทธิภาพและความเหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล และนี่คือรายละเอียดว่า Hifu vs Ulthera ต่างกันอย่างไร
HIFU คืออะไร?
HIFU ย่อมาจาก High-Intensity Focused Ultrasound ไฮฟู่ คือ เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงที่มีความเข้มข้นสูงไปยังชั้นผิวหนังลึกๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระชับขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อดีของการไฮฟู่นั้น ได้แก่
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเปิด ไม่ต้องพักฟื้น
- ใช้เวลาไม่นาน โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ต่อครั้ง
- เห็นผลลัพธ์ เห็นผลหลังทำ 20% และเห็นผลชัดเจนใน 1-3 เดือน
- มีความปลอดภัยหลังทำ เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย
- รักษาได้หลายจุด สามารถใช้รักษาได้ทั้งใบหน้า คอ และลำตัว
Ulthera คืออะไร?
Ulthera หรือ Ultherapy เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการยกกระชับผิว โดยใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ยิงลงไปยังชั้นผิวหนังและกล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง และดูอ่อนเยาว์ขึ้น สำหรับข้อดีของการทำอัลเทอร่า หรือ อัลเทอราปี มีดังนี้
- เห็นภาพชั้นผิวแบบชัดเจน ทำให้การรักษามีความแม่นยำสูง
- ยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ทำการยกกระชับในการผ่าตัด
- ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน เห็นผลหลังทำ 20% และเห็นผลชัดเจนใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-1.5 ปี
HIFU vs Ulthera มีกระบวนการทำงานอย่างไร?
HIFU และ Ulthera เป็นเทคนิคยกกระชับผิวที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง โดย HIFU ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงส่งผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังลึกๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูกระชับขึ้น โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก
ในขณะที่ Ulthera ใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ที่สามารถเห็นภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์สามารถกำหนดตำแหน่งที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ และส่งคลื่นเสียงไปยังชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ทำการยกกระชับในการผ่าตัด ทำให้ Ulthera สามารถยกกระชับผิวได้ลึกและยาวนานกว่า ทั้งสองเทคนิคไม่มีแผลเปิดและไม่ต้องพักฟื้น
HIFU vs Ulthera ต่างกันอย่างไร?
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) และ Ulthera (Ultherapy) เป็นเทคนิคยกกระชับผิวที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ แต่มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ดังนี้
1. ด้านเทคโนโลยีและการทำงาน
- HIFU ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงส่งผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังลึก ๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูกระชับขึ้น โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก
- Ulthera ใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ที่สามารถเห็นภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์สามารถกำหนดตำแหน่งที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ และส่งคลื่นเสียงไปยังชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ทำการยกกระชับในการผ่าตัด
2. ขนาดของจุดโฟกัส
- HIFU มีขนาดจุดโฟกัสอยู่ที่ 0.3-0.5 มม.
- Ulthera มีขนาดจุดโฟกัสที่ประมาณ 1 มม.
3. รูปแบบของการยิงพลังงาน
- HIFU ยิงพลังงานในรูปแบบของ Single Shot และ Line Cartridge
- Ulthera ยิงพลังงานในรูปแบบ Line Cartridge
ผลลัพธ์ของ HIFU vs Ulthera เป็นอย่างไรบ้าง?
ทั้ง HIFU และ Ulthera มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย รวมไปถึงการช่วยกระชับกรอบหน้า สำหรับผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าในดูเรียว แต่ทั้งนี้ทั้งสองแบบอาจมีข้อแตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้
ผลลัพธ์ของ HIFU
ผลลัพธ์ของการทำ HIFU นั้นเริ่มเห็นได้ทันทีหลังการรักษา โดยผิวหน้าจะรู้สึกกระชับขึ้นและเรียบเนียนขึ้น การรักษาด้วย HIFU ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังการรักษา ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น
ผลลัพธ์ของ Ulthera
เนื่องจากกระบวนการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวลึก การยกกระชับนี้สามารถคงอยู่ได้นานถึง 1-1.5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังการรักษา Ulthera ยังมีความแม่นยำสูงเนื่องจากสามารถเห็นภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความเป็นธรรมชาติและยาวนาน
ราคาการยกกระชับผิวด้วย Ultherapy และ HIFU
ในด้านของราคาการยกกระชับผิวหน้าด้วยการทำอัลเทอร่าและไฮฟู่นั้นจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและบริเวณที่ทำ สามารถปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนการเข้ารับบริการได้ เพื่อออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
สรุปเกี่ยวกับ Ultherapy และ HIFU
HIFU และ Ultherapy เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ได้รับความนิยม HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย หรือผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลางที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว งบประมาณจำกัด และไม่ต้องการพักฟื้น ขณะที่ Ultherapy เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยในระดับปานกลาง ทั้งนี้ทั้งสองวิธีมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวที่แตกต่างกันไป Hifu vs Ulthera อย่างไหนดีกว่ากันนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการในการเลือกใช้ งบประมาณ และคำแนะนำจากแพทย์ผู้ชำนาญการด้วย และ แน่นอนว่าหากคุณกำลังสนใจการทำ HIFU หรือ Ultherapy ที่ Pongsak Clinic มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ที่พร้อมให้คำแนะนำ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ให้แพทย์ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คลิก!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Hifu vs Ultherapy
HIFU และ Ultherapy ต่างกันอย่างไร?
HIFU ใช้คลื่นเสียงความเข้มข้นสูงส่งเข้าสู่ชั้นผิวลึกเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ขณะที่ Ultherapy ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่สามารถเห็นภาพชั้นผิวได้ชัดเจน ทำให้การรักษามีความแม่นยำสูงและยกกระชับลึกถึงชั้น SMAS
ผลลัพธ์ของ HIFU และ Ultherapy ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเห็นผล?
ผลลัพธ์ของ HIFU จะเริ่มเห็นทันทีหลังการรักษาและชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน ส่วน Ultherapy จะเห็นผลชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
ทำ HIFU กับ Ultherapy เจ็บมากไหม?
ทั้ง HIFU และ Ultherapy อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยในขณะทำ แต่สามารถทนได้ แพทย์อาจให้ยาชาหรือแนะนำวิธีการผ่อนคลายเพื่อลดความเจ็บปวด
หลังทำ Ultherapy หรือ HIFU ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
หลังการทำ HIFU และ Ultherapy ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัด ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อรักษาผลลัพธ์และป้องกันผลข้างเคียง