Botox

ตัวช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย

สารบัญ

ตัวช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย

หากการคงความงามเรียบตึงกระชับของผิวพรรณและลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย คือ ความปรารถนาของคุณ Botox หรือ ‘Botulinum Toxin Type A’ เป็นตัวช่วยสำหรับผิวให้แลดูตึงกระชับเรียบเนียน พร้อมทั้งปรับรูปหน้าให้ได้รูปมีมิติ

จุดเริ่มต้นการนำโปรตีนบริสุทธิ์มาใช้คือ เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน โดยมีการค้นพบคุณสมบัติของ Botulinum Toxin Type A สำหรับใช้ในการรักษาโรคได้หลากหลาย เช่น อาการกล้ามเนื้อกระตุก เหงื่อออกมากเกินไป อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เป็นต้น

ต่อมาบริษัท Allergen ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าแรกที่นำ Botulinum Toxin Type A ในนาม โบท็อกซ์ (Botox) มาใช้ในวงการความงาม และใช้อย่างต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบันเกือบ 30 ปีมาแล้ว ซึ่งได้การยอมรับในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา (FDA) สหรัฐอเมริกา ด้วยประสิทธิภาพในการช่วยยกกระชับปรับรูปหน้า เพื่อเพิ่มความเต่งตึงให้ผิวพรรณ ปรับโครงหน้าให้เรียวเข้ารูป และลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย โบท็อกซ์จึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก จนหลายคนกล่าวว่า ‘โบท็อกซ์เป็นเสมือนยาสามารถประจำบ้านในวงการความงาม’

โดยคำว่า ‘โบท็อกซ์’ เป็นชื่อเรียกของ ‘Botulinum Toxin Type A’ ที่จดทะเบียนโดยบริษัท Allergen ประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ส่วนโบท็อกซ์ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทและประเทศอื่นๆ จะมีชื่อทางการค้าแตกต่างกันออกไป อาทิ Nabota, Botulax จากประเทศเกาหลี XBeauty จากประเทศเยอรมัน และ Dysport จากประเทศอังกฤษ

Botox_โบท็อกซ์_ลดดราม_หน้าเรียว_ปรับรูปหน้า_pongsakclinic

คุณประโยชน์ของโบท็อกซ์

ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย โดยเฉพาะรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เช่น รอยย่นบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว รอยตีนกา ฯลฯ

ทำให้ผิวเรียบตึง โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัด

ปรับโครงหน้า ลดขนาดกราม และยกกระชับใบหน้าให้เข้ารูปมีมิติขึ้น

ลดน่องให้เรียวมน

ระงับการเกิดเหงื่อ โดยเฉพาะบริเวณใต้วงแขนหรือรักแร้

ใช้เวลารักษาน้อย ประมาณ 30-40 นาที

เห็นผลชัดและรวดเร็วตั้งแต่หลังรักษา สามารถกลับไปทำงานได้ปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น

การเตรียมตัวก่อนรักษาด้วยโบท็อกซ์

• ก่อนรักษา 1-2 สัปดาห์ ควรงดยาแก้ปวด ‘NSAIDs’ ยาละลายลิ่มเลือด และอาหารเสริมในกลุ่มวิตามินอี น้ำมันตับปลา และสมุนไพร เช่น ขิง โสม แปะก๊วย ฯลฯ

ขั้นตอนการรักษา

1. แพทย์ตรวจสภาพผิวและประเมินการรักษา

2. พนักงานทำความสะอาดผิวให้คนไข้ หากคนไข้กลัวเจ็บทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที

3. แพทย์ทำการรักษา โดยใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่จำนวนยาและบริเวณที่รักษา

4. แพทย์รักษาเสร็จ พนักงานทำความสะอาดผิวให้คนไข้

การดูแลตัวเองหลังรักษาด้วยโบท็อกซ์

• หลังรักษาทันทีไม่ควรจับหรือนวดบริเวณที่รักษา เพราะอาจมีผลต่อการกระจายตัวของยา

• หากมีรอยช้ำให้ประคบเย็นที่บ้านต่อ แต่ห้ามนวดหรือประคบอุ่น

• หลังรักษา 4 ชั่วโมง เป็นช่วงที่ตัวยากำลังซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อ จึงไม่ควรนอนราบหรือนอนตะแคงเพราะยาอาจเคลื่อนจากตำแหน่งที่แพทย์วางไว้

• เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการออกฤทธิ์ของตัวยา ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์หลังรักษา

• ช่วง 2-4 สัปห์ดาแรก งดการอบไอน้ำ และซาวด์หน้า ซึ่งจะทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่

การออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์

• ยับยั้งการหลั่งสารเคมีที่กล้ามเนื้อบริเวณที่เดินยา เช่น ที่กล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ริ้วรอยลดเลือนลง หากเป็นกล้ามเนื้อบริเวณกรามหรือน่องจะลดการใช้งาน ขนาดของกรามหรือน่องจึงเล็กลง

• หลังรักษาจะเห็นผลชัดใน 2-3 วัน หรือช้าสุดภายใน 7 วัน ยกเว้นการรักษาเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวมน และการปรับรูปน่องจะเห็นผลในประมาณ 1 เดือน

• ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับปัญหาและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล) แต่หากรักษาอย่างต่อเนื่องทุกๆ 6 เดือน จะทำให้ผลชัดเจนและอยู่ได้นานขึ้น แต่ไม่ควรใช้บ่อยหรือถี่จนเกินไป และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์