หากคุณกำลังมองหาการเติมโบท็อกซ์เพื่อเสริมความงามและลดริ้วรอย คงได้ยินชื่อ “Aestox” กันมาบ้างแล้ว ในบทความนี้เราจะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับ Aestox ว่าดีไหม สีแต่ละสีต่างกันอย่างไร และราคาเท่าไหร่ เพื่อให้คุณได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ
โบท็อกซ์ Aestox ดีไหม มีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง ?
Aestox เป็นแบรนด์โบเกาหลี ที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากผู้ใช้หลายคน มีคุณสมบัติในการลดริ้วรอย ยกกระชับผิว และปรับรูปหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ Aestoxใช้สาร Botulinum Toxin Type A ซึ่งเป็นสารที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการเสริมความงาม มีการรับรองความปลอดภัยจากหลายสถาบัน ทำให้คุณมั่นใจได้ในคุณภาพและผลลัพธ์
โบท็อกซ์แต่ละสีต่างกันอย่างไร?
Aestox มีการจัดประเภทสีที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท ซึ่งหลักๆ มีดังนี้
- Aestox สีฟ้า (Blue Aestox) เน้นการลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา และริ้วรอยระหว่างคิ้ว
- Aestox สีเขียว (Green Aestox) – เน้นการปรับรูปหน้าและยกกระชับ เช่น การยกกระชับผิวหน้า การปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- Aestox สีแดง (Red Aestox) – ใช้ในการลดกล้ามเนื้อ เช่น การลดขนาดกราม ลดกล้ามเนื้อแขนและขา
โบท็อกซ์ Aestox อยู่ได้กี่เดือน ?
อายุการใช้งานของโบท็อกซ์ Aestox นั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณที่เติม ยิ่งเติมมาก ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานขึ้น บริเวณที่เติมเพราะการเติมบริเวณที่กล้ามเนื้อทำงานบ่อย เช่น บริเวณหน้าผาก อาจจะเห็นผลสั้นลงกว่าบริเวณอื่น นอกจากนี้การพักผ่อนให้เพียงพอ การทานอาหารที่มีประโยชน์ และการหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก จะยิ่งช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น รวมไปถึงเมตาบอลิซึมของร่างกาย ซึ่งแต่ละคนมีอัตราการเผาผลาญที่แตกต่างกัน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว ผลของโบท็อกซ์ Aestox จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน แต่บางคนอาจเห็นผลอยู่ได้นานถึง 6 เดือน
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์สั้นลงก็อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกายที่หนักเกินไปอาจทำให้โบท็อกซ์สลายตัวเร็วขึ้น การนวดหน้าแรงๆ อาจทำให้โบท็อกซ์กระจายตัวและลดประสิทธิภาพ และการใช้ความร้อนสูง อย่างเช่น การซาวน่า หรือการอบไอน้ำ อาจทำให้โบท็อกซ์สลายตัวเร็วขึ้นได้เช่นกัน
Aestox ราคาเท่าไร ?
ราคาของ Aestox จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณการใช้ และบริเวณที่ต้องการเติม เพราะการเติมบริเวณที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น รอบดวงตา รวมไปถึงคลินิกที่ให้บริการ และโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลา
เปรียบเทียบ Aestox กับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น
การเลือกโบท็อกซ์สำหรับการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแต่ละแบรนด์มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน เราจะมาเปรียบเทียบ Aestox กับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้นกัน
1. Aestox จากเกาหลีใต้ สารออกฤทธิ์ประเภท Botulinum Toxin Type A มีจุดเด่นอยู่ที่
- คุณภาพสูง ผลลัพธ์ชัดเจน
- ราคาไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
- ได้รับความนิยมในหมู่คลินิกเสริมความงามในเอเชีย
2. Botox (Allergan) จากประเทศสหรัฐอเมริกา สารออกฤทธิ์ประเภท Botulinum Toxin Type A จุดเด่นอยู่ที่
- เป็นโบท็อกซ์ตัวแรกที่ได้รับการรับรองจาก FDA ในสหรัฐอเมริกา
- มีการวิจัยและการใช้งานมากที่สุดในโลก
- ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและคาดเดาได้
3. Dysport (Ipsen) โบท็อกซ์จากประเทศสหราชอาณาจักร สารออกฤทธิ์ประเภท Botulinum Toxin Type A มีจุดเด่นที่
- กระจายตัวได้ดีกว่า เหมาะกับการเติมในบริเวณกว้าง
- ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้เร็วภายใน 24-48 ชั่วโมง
4. Xeomin (Merz) จากเยอรมัน เป็นสารออกฤทธิ์ประเภท Botulinum Toxin Type A มีจุดเด่นที่
- ไม่มีโปรตีนเสริม ทำให้ลดความเสี่ยงการดื้อยา
- ผลลัพธ์ธรรมชาติและนุ่มนวล
5. Nabota (Daewoong) จากประเทศเกาหลีใต้ สารออกฤทธิ์ประเภท Botulinum Toxin Type A โดดเด่นที่
- ได้รับการรับรองจากหลายประเทศ
- ราคาไม่สูงมาก มีคุณภาพที่ดี
การเตรียมตัวก่อนเติมโบท็อกซ์ Aestox
การเตรียมตัวก่อนเติมโบท็อกซ์ Aestox เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น นี่คือคำแนะนำในการเตรียมตัวที่ควรปฏิบัติก่อนเข้ารับการเติมโบท็อกซ์ Aestox
1. ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ
ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการเติมโบท็อกซ์ เพื่อประเมินสภาพผิวหน้าและพูดคุยเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ต้องการ แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือยาที่กำลังใช้อยู่ เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
2. หลีกเลี่ยงยาบางชนิด
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง เช่น แอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), วิตามินอี และอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของโสมหรือกระเทียม อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการเติมยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออกหลังการเติม
3. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการเติม เพราะแอลกอฮอล์อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าลงและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
4. ดูแลสุขภาพทั่วไป
ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่ดี
นอนหลับให้เพียงพอในคืนก่อนการเติม เพื่อให้ผิวหน้าอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
5. งดการแต่งหน้า
ในวันที่เติม ควรทำความสะอาดใบหน้าและงดการแต่งหน้า เพื่อให้ผิวหน้าอยู่ในสภาพที่สะอาดและพร้อมรับการรักษา
6. หลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์บางชนิด
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) หรือกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ประมาณ 1-2 วันก่อนการเติม เพื่อลดการระคายเคืองของผิวหน้า
7. เตรียมตัวเรื่องการเดินทาง
ควรเตรียมการเดินทางให้เหมาะสม เพื่อให้คุณมีเวลาเพียงพอในการกลับบ้านและพักผ่อนหลังการเติม ไม่ควรวางแผนกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหรือออกกำลังกายหนักในวันเดียวกับวันที่เติม
สรุป วิธีดูโบท็อกซ์ Aestox ของแท้
การเลือกใช้โบท็อกซ์ที่เป็นของแท้และมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมความงาม เพราะการใช้โบท็อกซ์ปลอมอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นการตรวจสอบโบท็อกซ์ Aestox ว่าเป็นของแท้หรือไม่จึงเป็นสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญ
1. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์
- กล่องบรรจุ กล่องของ Aestox ของแท้จะมีการพิมพ์ที่ชัดเจน ไม่เลอะเลือน ตัวอักษรและโลโก้ต้องคมชั
- ฉลาก ตรวจสอบฉลากที่ติดอยู่บนกล่อง ควรมีข้อมูลที่ชัดเจน เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์, วันที่ผลิต, วันหมดอายุ และเลขล็อต (Lot Number)
- ซีลปิดผนึก กล่องควรมีซีลปิดผนึกที่ไม่มีรอยฉีกขาด หากซีลถูกเปิดหรือเสียหาย อาจเป็นสัญญาณว่าเป็นของปลอม
2. ตรวจสอบขวดบรรจุ
ขวดบรรจุของ Aestox ของแท้จะเป็นขวดแก้วที่มีฉลากติดอย่างแน่นหนา ตัวอักษรบนฉลากต้องคมชัดและไม่หลุดลอก สารในขวดโบท็อกซ์ของแท้จะเป็นผงแห้งสีขาว ซึ่งจะต้องผสมกับน้ำเกลือ (Saline) ก่อนใช้
3. ตรวจสอบเลขทะเบียน
ตรวจสอบเลขทะเบียนของโบท็อกซ์ Aestox ว่าตรงกับข้อมูลที่ได้จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือไม่ คุณสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของ อย.
4. ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
เลือกใช้บริการจากคลินิกที่ได้รับการรับรองและมีความชำนาญการ รวมถึงตรวจสอบว่าแพทย์ที่เติมโบท็อกซ์มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและมีความชำนาญการในการเติมโบท็อกซ์
5. ราคาเหมาะสม
โบท็อกซ์ของแท้มักมีราคาที่สมเหตุสมผล หากราคาถูกเกินไปอาจเป็นสัญญาณว่าเป็นของปลอม
6. ตรวจสอบการผสมสาร
ด้านการผสมสาร ทางแพทย์ผู้เติมควรทำการผสมสารโบท็อกซ์ต่อหน้าคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าสารที่ใช้เป็นของแท้และมีความสะอาด
ทั้งนี้การเลือกใช้โบท็อกซ์ Aestox ของแท้จะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการก่อนตัดสินใจเติมเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
หากคุณกำลังมองหาวิธีการลดริ้วรอยและยกกระชับผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และสดใส Pongsak Clinic ขอแนะนำการเติมโบท็อกซ์ Aestox ซึ่งเป็นโบท็อกซ์คุณภาพสูงจากเกาหลี ที่ Pongsak Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการเติมโบท็อกซ์ที่มีประสบการณ์ ให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าการเติมโบท็อกซ์ Aestox ของคุณจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากมืออาชีพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ให้แพทย์ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คลิก!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Aestox ดีไหม
โบท็อกซ์ Aestox คืออะไร?
โบท็อกซ์ Aestox เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารโบทูลินัมท็อกซินชนิด A เพื่อลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า โดยทำงานโดยการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย
ผลลัพธ์ของการใช้ Aestox ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเห็นผล?
โดยทั่วไป ผลลัพธ์จากการเติมโบท็อกซ์ Aestox จะเริ่มเห็นผลภายใน 3-7 วัน และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การเติม Aestox เหมาะกับใครบ้าง?
การเติมโบท็อกซ์ Aestox เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า โดยเฉพาะริ้วรอยบริเวณหน้าผาก, รอบดวงตา และระหว่างคิ้ว
Aestox มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังการเติม Aestox อาจรวมถึงรอยช้ำ, บวม, แดง หรืออาการปวดบริเวณที่เติม แต่ส่วนใหญ่จะหายไปภายในไม่กี่วัน