หลังฉีดฟิลเลอร์ สิ่งที่ควรและไม่ควรทำ ฉีดฟิลเลอร์ดูแลยังไง

หลังฉีดฟิลเลอร์ มีข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ อย่างไร หลายคนอาจจะยังไม่แน่ใจ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกวิธีถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีและเห็นผลนาน ดังนั้นก่อนการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ เราควรศึกษาข้อมูลของฟิลเลอร์ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามอะไรบ้างก่อน

โปรแกรมฟิลเลอร์คืออะไร

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ซึ่งเป็นโพลีแซคคาไลน์ ที่มีอยู่ในร่างกายอย่างผิวหนัง และกระดูกอ่อน เมื่อผสมรวมกับน้ำจะขยายตัวอยู่ในรูปของเนื้อเจล สามารถย่อยสลายได้เองเมื่อเวลาผ่านไปด้วย enzyme ในร่างกาย คือ Hyaluronidase จึงมีความปลอดภัยสูง อยากรู้ลึกเรื่องฟิลเลอร์ คลิก!

โปรแกรมฟิลเลอร์ คือ การเติม Hyaluronic Acid หรือ HA เพื่อเติมเต็มหรือเสริมชั้นในผิวหนังและใต้ผิวหนัง บริเวณร่องลึกหรือบริเวณที่ขาด  นอกจากนี้ยังใช้ในการปรับโครงสร้างบนใบหน้า เช่น เติมคาง, แก้มที่ย้อย (แก้มส้ม)

ฟิลเลอร์รักษาตรงไหนได้บ้าง

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถทำได้ทั่วใบหน้าตามจุดที่ต้องการแก้ไข แต่จะมี 7 จุด ยอดนิยมที่เหมาะกับเติมโปรแกรมฟิลเลอร์ ทั้งบริเวณคาง ปาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม หน้าผากและแก้มส้ม

โปรแกรมฟิลเลอร์คาง เป็นการฉีดสารเติมเข้าไปบริเวณคาง เพื่อเสริมคาง และปรับรูปหน้าให้ดูสมมาตร หรือหน้าเรียววีเชฟมากขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การเติมสาร เข้าไปบริเวณริมฝีปากเพื่อเพิ่มเนื้อและปรับขนาดโครงสร้างปาก ให้ปากอวบอิ่มขึ้น แก้ปัญหาปากบาง ปากแห้งลอก ปากไม่เป็นรูปให้สมดุล เป็นรูปทรงที่สวยงาม

ฟิลเลอร์ขมับ ช่วยเติมเต็มในบริเวณขมับที่เป็นแอ่งลึก ปรับใบหน้าโดยรวมให้ดูสมดุลได้สัดส่วนมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดเข้าไปในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอย เมื่อคนเราอายุมากขึ้นกระดูกจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าดูโทรม อ่อนล้า เกิดเป็นร่องรอยใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อเติมเต็มใต้ผิวหนังบริเวณร่องแก้ม โดยฟิลเลอร์จะทำหน้าที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ในชั้นใต้ผิวหนัง และเติมเต็มในส่วนที่ยุบตัวลง ช่วยปรับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ สดใสไม่โทรม ที่สำคัญสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันหลังทำ ไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้น

ฟิลเลอร์หน้าผาก จะฉีดเพื่อปรับรูปทรงหน้าผากให้ได้สัดส่วนสวยเข้ารูปมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากแบน ยุบ แคบ หรือเป็นแอ่ง ต้องการแก้ไขโหงวเฮ้ง หรือต้องการใบหน้าที่มีมิติมากขึ้น

การฟิลเลอร์แก้มส้ม หรือ การฉีดฟิลเลอร์ Midface  เป็นการฉีดสารเข้าไปบริเวณกึ่งกลางใบหน้า (Mid-face) เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างใบหน้าที่ยุบตัว  เติมเต็มร่องลึก  เพิ่มมิติให้ใบหน้าดูโดดเด่นขึ้น และทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย

วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุด

ฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีรอยแดงเล็กน้อยในช่วงแรก รอยแดงเหล่านี้จะค่อย ๆ ลดลงภายใน 3-7 วัน หลังฉีดฟิลเลอร์หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดบริเวณใต้ตา ป้องกันการติดเชื้อ อักเสบจากมือที่สกปรก ร่วมถึงมีผลต่อการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์  ใน 2-3 คืนแรกหลังทำนอนหัวสูงกว่าหน้าอกโดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบและไม่ควรนอนตะแคงป้องกันการกดทับใบหน้าคาง ปาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม หน้าผาก

ฟิลเลอร์คาง

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 24 ชม .มีรอยแดงเล็กน้อย ซึ่งรอยแดงเหล่านี้จะค่อย ๆ ลดลงภายใน 3-7 วัน การฉีดฟิลเลอร์คางควรดื่มน้ำมาก ๆ ควรอยู่ในอากาศเย็น ๆ หลีกเลี่ยงการเท้าคาง ไม่ควรนอนคว่ำกดทับตรงบริเวณคาง  ที่สำคัญหลังฉีดฟิลเลอร์คางห้ามนวด กด ปั้นทรงเองโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้คางเสียทรง

ฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปาก จะเกิดรอยแดงบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย สามารถหายเองได้ภายใน 3-7 วัน  ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ คือ  ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ และช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู อยู่ได้นานขึ้น เลี่ยงการรับประทานของร้อน ๆและงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติกใน 12 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่จับ บีบ นวดบริเวณริมฝีปาก รวมถึงไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก

ฟิลเลอร์ขมับ

การฉีดฟิลเลอร์ขมับ อาจทำให้รู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย เนื่องจากเป็นจุดรวมเส้นประสาท โดยอาการจะหายเองได้ใน 1-2 วัน สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะ.มีรอยแดงเล็กน้อยและจะค่อยๆจางลง ควรเลี่ยงการนอนให้กดทับบริเวณขมับ เพราะอาจทำให้ปวดศีรษะขึ้นมาได้ แต่การนอนตะแคงไม่ได้ทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงแต่อย่างใด

ฟิลเลอร์หน้าผาก

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ในบางกรณี อาจรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย หากรู้สึกปวดมากสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีแต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่อากาศร้อน และไม่ควรจับ กดนวดบริเวณหน้าผาก

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีรอยแดงจากเข็มเล็กน้อย อาการต่าง ๆ จะค่อยๆดีขึ้น ที่สำคัญ คือ อย่าบีบ กด หรือ นวด แกะเกาบริเวณร่องแก้ม อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก  หลีกเลี่ยงออกกำลังกายหนักๆหรือตากแดด เพื่อให้รอยแดงจางไวขึ้น

ฟิลเลอร์แก้มส้ม

คำแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มควรประคบเย็นบริเวณแก้ม 10-15 นาที เพื่อลดรอยแดง หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง กด หรือถูบริเวณแก้ม ไม่ควรแต่งหน้า 24 ชั่วโมงแรกเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ 

อันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม

ฟิลเลอร์ปลอม คือ ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน มักผลิตจากสารเคมีอันตราย ไม่สามารถย่อยสลายเองตามธรรมชาติ ส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายทั้งผลข้างเคียงในระยะสั้นและระยะยาว

ในระยะสั้นอาจพบอาการ บวมแดง อักเสบ ติดเชื้อ แพ้ คัน ผื่นแดง ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน แข็ง ไหลเยิ้ม ส่งผลทำให้ใบหน้าเสียรูป ผิดรูป

ในระยะยาว อาจมีเนื้อตาย เกิดพังผืด เส้นเลือดอุดตัน ตาบอด ใบหน้าเสียโฉมถาวร

ตัวอย่างอันตรายร้ายแรงจากฟิลเลอร์ปลอม

• คางอักเสบ
• จมูกเน่า
• ตาบอด

การรักษาอาการจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอมทำได้ยาก กรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอมมาไม่นาน

อาจใช้วิธีฉีดยา Hyaluronidase ละลายฟิลเลอร์ กรณีฉีดฟิลเลอร์ปลอมมานาน ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน แข็ง ไหลเยิ้ม จำเป็นต้องผ่าตัดเอาออก

ดังนั้นการเลือกฉีดฟิลเลอร์ จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดทั้งยี่ห้อฟิลเลอร์ .ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี  ที่ พงศ์ศักดิ์คลินิก เราเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์แท้ทำโปรแกรมฟิลเลอร์เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่? การเติมฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ จะเริ่มเข้าที่และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเต็มที่ภายใน 2-3 สัปดาห์ การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ อยู่ได้นาน เป็นธรรมชาติ และไม่เกิดการติดเชื้อได้

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การนวด นวดบริเวณที่เติมยา ยกเว้นแต่แพทย์เป็นผู้สั่งให้ทำเท่านั้น ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ ละทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด, อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ หมูกระทะ ชาบู, อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมากๆ จนหน้าแดง เป็นต้น

• งดการแต่งหน้า งดทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ AHA หรือวิตามินซี ภายใน 24 ชั่วโมง
• งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF (Radio Frequency) Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
• ไม่ควรอยู่ในที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดจนกว่าบริเวณที่แดงจะหายไป
• ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ และช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู อยู่ได้นานขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย หรือเติมในส่วนที่ขาดของใบหน้า สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง ผิวอักเสบ เช่น สิวอักเสบ ผื่น ลมพิษ เพราะอาจทำให้อาการอักเสบรุนแรงขึ้น ผู้ที่มีอาการแพ้สารประเภทคอลลาเจน ไข่ หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์และผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรงดเว้นการฉีดฟิลเลอร์ 

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับหลังฉีดฟิลเลอร์