ไฮฟู่ คือ? Hifu ทําได้บ่อยแค่ไหน กี่ช็อตเห็นผล มีข้อเสียไหม?
ไฮฟู่ คือ เทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด คลื่นเสียงเหล่านี้จะถูกส่งไปยังชั้นผิวหนังที่ลึกลงไปในลักษณะเฉพาะเจาะจง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อและการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังดูเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมมากในวงการความงามและการดูแลผิว เนื่องจากมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจและมีความปลอดภัยสูง
ไขข้อสงสัย! Hifu ทำได้บ่อยแค่ไหน
Hifu ดีจริงไหม? Hifu ช่วยอะไร? แน่นอนว่าไฮฟู่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้าและลำคอ ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้วจะเห็นผลตั้งแต่หลังทำ 20% และเห็นผลชัดเจนใน 1-3 เดือน ผิวหน้าจะดูเรียบเนียน เต่งตึง ริ้วรอยดูจางลง รูขุมขนกระชับ ลองมาดูกันว่า ทำ Hifu ดีไหม ตามข้อดีและจุดเด่นดังนี้
Hifu ข้อดี ที่ทุกคนควรรู้
- · ยกกระชับใบหน้าและลำคอโดยไม่ต้องผ่าตัด
- · เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- · ผลลัพธ์ยาวนาน
- · แทบไม่มีผลข้างเคียง
- · ใช้เวลาพักฟื้นสั้น
Hifu ทําได้บ่อยแค่ไหน HIFU สามารถทำทุกเดือนได้ไหม
ทางแพทย์ผู้ชำนาญการไม่แนะนำให้ทำ HIFU ทุกเดือน เนื่องจากผิวต้องได้รับเวลาในการทำงานและฟื้นฟูคอลลาเจนให้เต็มที่ โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้ทำ HIFU 1-2 ครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ปัญหาผิว และผลลัพธ์ที่ต้องการ หลังจากทำ HIFU ควรดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ทาครีมกันแดด ดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูและผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน
ความลับที่ไม่ลับ ! ควรทำ Hifu กี่ครั้งเห็นผล ?
โดยทั่วไปแล้วการทำ HIFU ทั่วใบหน้าจะใช้ประมาณ 200-600 ช็อต แต่การที่จะทำ Hifu เห็นผลหรือไม่เห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- · สภาพผิว: ผิวที่หย่อนคล้อยมาก ต้องการช็อต HIFU มากกว่าผิวที่หย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย
- · ปัญหาผิว: ปัญหาผิวที่รุนแรง เช่น ริ้วรอยลึก ร่องแก้มลึก ต้องการช็อต HIFU มากกว่าปัญหาผิวที่ไม่รุนแรง
- · เครื่อง HIFU ที่ใช้: เครื่อง HIFU แต่ละรุ่นให้พลังงานและความลึกของคลื่นอัลตราซาวด์ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อจำนวนช็อตที่ใช้
- · เทคนิคการยิงของแพทย์: แพทย์ผู้ชำนาญการจะประเมินปัญหาผิวและปรับจำนวนช็อต HIFU ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
Hifu อยู่ได้กี่เดือน ?
ผลลัพธ์ของการทำ Hifu โดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
- สภาพผิว: ผิวที่หย่อนคล้อยมาก ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าผิวที่หย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย
- ปัญหาผิว: ปัญหาผิวที่รุนแรง เช่น ริ้วรอยลึก ร่องแก้มลึก ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าปัญหาผิวที่ไม่รุนแรง
- เครื่อง Hifu ที่ใช้: เครื่อง Hifu แต่ละรุ่นให้พลังงานและความลึกของคลื่นอัลตราซาวด์ที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่
- เทคนิคการยิงของแพทย์: แพทย์ผู้ชำนาญการจะประเมินปัญหาผิวและปรับจำนวนช็อต Hifu ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ส่งผลต่อระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่
- การดูแลตัวเองหลังทำ: การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ทาครีมกันแดด ดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้ผลลัพธ์ของ Hifu คงอยู่ได้นานขึ้น
ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาก่อนทำ HIFU
- · สภาพผิว: ผู้ที่มีผิวบาง แพ้ง่าย หรือเป็นโรคผิวหนังบางชนิด ไม่ควรทำ HIFU
- · ปัญหาสุขภาพ: ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ HIFU
- · ยาที่ทาน: การทานยาบางชนิด อาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของ HIFU ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทำ HIFU
ทำ Hifu ที่ไหนดี ยกกระชับใบหน้าแบบปลอดภัย ประจำปี 2024
ปี 2024 นี้ เทรนด์การยกกระชับใบหน้าแบบปลอดภัย ไร้รอยแผล ยังคงมาแรง HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยม ด้วยประสิทธิภาพที่รวดเร็ว เห็นผลชัดเจน โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่การจะเลือกคลินิกทำ HIFU ทไหนดี นั้น ก็ต้องหาข้อมูล เปรียบเทียบราคา และเลือกคลินิกที่เหมาะกับตัวเอง ซึ่งก่อนตัดสินใจเลือกคลินิกทำ HIFU ควรพิจารณา ดังนี้
- · ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่น รีวิวจากคนไข้จริง สามารถดูรีวิว Hifu ได้ที่นี่
- · ปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อประเมินสภาพผิว ปัญหาผิว และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
- · เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย มีแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง
- · สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่อง HIFU ที่ใช้ เทคโนโลยี และผลลัพธ์ที่คาดหวัง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ให้แพทย์ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คลิก!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำไฮฟู่
การทำ Hifu เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าและลำคอหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม รอยใต้ตา
- ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและยาวนาน
หลังทำ Hifu ห้ามทำอะไรอะไรบ้าง ?
หลังจากทำ hifu ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์เพื่อให้ผลการรักษาที่ดีที่สุดและป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียง ดังนี้
- หลีกเลี่ยงแดด: ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงหลังการทำ HIFU เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ซึ่งผิวจะอ่อนแรงต่อแสงแดดหลังจากการรักษา
- ไม่ควรใช้เครื่องสำอางหน้าที่มีส่วนผสมเคมีรุนแรง: เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรือความรุนแรงต่อผิวหลังการทำ HIFU ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมที่เป็นพิษต่อผิว
- ปฏิบัติการดูแลผิว: รักษาความสะอาดของผิวหนังอย่างเหมาะสม และใช้ครีมที่ช่วยบำรุงผิวหลังการทำ HIFU เพื่อช่วยในการฟื้นฟูผิว
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ทำให้ผิวแพ้ง่าย: เช่น สบู่หือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมคมีรุนแรงที่อาจทำให้ผิวหนังแพ้ง่ายหรือมีอาการระคายเคือง
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ชำนาญการ: คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลหลังการทำ HIFU จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวและประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด