ฉีดโบท็อกซ์คืออะไร โบท็อกซ์ช่วยอะไร ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล
ตัวช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
- การฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ?
- สารโบท็อกซ์ มีหลักการทำงานอย่างไร?
- ฉีดโบท็อกซ์ ช่วยอะไร? ใช้ในรักษาอะไรได้บ้าง?
- อัปเดตฉีดโบท็อกซ์ ราคาสุดคุ้ม 2024 กับ PONGSAK CLINIC
- รวมจุดฉีดโบท็อกซ์ ฉีดตรงไหนได้บ้าง? ช่วยอะไรได้บ้าง ?
- โบท็อกซ์มีกี่ยี่ห้อ? ควรเลือกโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี ?
- ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ควรเตรียมตัวอย่างไร?
- หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรดูแลผิวและปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- หลังฉีดโบท็อกซ์ห้ามกินอะไรบ้าง?
- โบท็อกซ์เหมาะกับใครบ้าง?
- มัดรวมข้อดีและข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์
- ฉีดโบท็อกซ์ดีไหม ?
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์
เพราะความสวยเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความมั่นใจให้กับสาว ๆ ใครที่กำลังเผชิญปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า หรือรู้สึกโครงหน้าค่อนข้างใหญ่ อยากปรับรูปหน้าให้เรียว แต่ไม่รู้จะทำหัตถการอะไรดี ลองมาทำความรู้จักกับโบท็อกซ์ นวัตกรรมความงามที่จะช่วยคืนความเยาว์วัยให้กับผิว พร้อมเสริมความมั่นใจให้กับคุณในขั้นตอนเดียว กับ PONGSAK CLINIC พร้อมอัปเดตเรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ ฉีดโบท็อกซ์ ช่วยอะไร? ฉีดโบท็อกซ์ หน้าผากกี่วันเห็นผล? ฉีดโบท็อกซ์ ลดกรามกี่วันเห็นผล? หลังฉีด โบท็อกซ์ ต้องระวังอะไรบ้าง? หลังฉีดโบท็อกซ์ห้ามกินอะไร? แล้วควรเลือกฉีดโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี? ที่นี่มีคำตอบ
การฉีดโบท็อกซ์ คืออะไร ?
การฉีดโบท็อกซ์ คือ การเติมสารโบท็อกซ์ หรือโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ซึ่งสารโบท็อกซ์ คือ สารที่สกัดมาจากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด จึงช่วยลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้นั่นเอง
สารโบท็อกซ์ มีหลักการทำงานอย่างไร?
สารโบท็อกซ์ เมื่อฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อ จะเข้าไปออกฤทธิ์กับระบบเซลล์ประสาทส่วนปลาย ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทไปสั่งให้กล้ามเนื้อหดตัวได้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดการขยับของกล้ามเนื้อ ปรับรูปหน้า พร้อมกระชับผิวในขั้นตอนเดียว
ฉีดโบท็อกซ์ ช่วยอะไร? ใช้ในรักษาอะไรได้บ้าง?
ด้วยคุณสมบัติคลายกล้ามเนื้อ และลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้การฉีดโบท็อกซ์ ช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
- ลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้า เช่น ริ้วรอยระหว่างคิ้ว หน้าผาก หางตา ร่องแก้ม เป็นต้น
- ช่วยป้องกันริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า ก่อนจะพัฒนาเป็นริ้วรอยร่องลึกในอนาคต
- ช่วยปรับรูปหน้า ให้เรียวกระชับมากยิ่งขึ้น
- ช่วยลดรูขุมขนกว้าง ทำให้ผิวเรียบเนียน ยกกระชับได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
- ช่วยลดเหงื่อใต้วงแขนได้มากถึง 80% พร้อมลดปัญหากลิ่นตัวในขั้นตอนเดียว
- ลดขนาดน่อง ทำให้ขาดูเรียวเล็กมากยิ่งขึ้น
อัปเดตฉีดโบท็อกซ์ ราคาสุดคุ้ม 2024 กับ PONGSAK CLINIC
ลดเลือนริ้วรอย เปลี่ยนผิวหย่อนคล้อย ให้กลับมากระชับเต่งตึง พร้อมปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ คืนความมั่นใจให้กับตัวเองอีกครั้ง ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ กับ PONGSAK CLINIC ด้วยเครื่องมือนวัตกรรม และเทคโนโลยีระดับ Gold Standard พร้อมให้บริการด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ มั่นใจเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรก นอกจากนี้ เรายังมีบริการทรีทเม้นท์ ยกกระชับผิว ไม่ว่าจะเป็น Ulthera และ Thermage อีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจฉีดโบท็อกซ์กับเรา สามารถขอคำปรึกษาแพทย์และสอบถามแพ็กเกจหรือโปรโมชันได้ที่ดีที่สุดได้ที่นี่
‘ ลิฟกรอบหน้า ราคาดีที่สุด เฉพาะเดือนนี้ที่ PONGSAK CLINIC ‘
รวมจุดฉีดโบท็อกซ์ ฉีดตรงไหนได้บ้าง? ช่วยอะไรได้บ้าง ?
สารโบท็อกซ์สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งบนร่างกาย ซึ่งแต่ละตำแหน่งที่ฉีดโบท็อกซ์ จะมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิวได้แตกต่างกัน โดยตำแหน่งที่ลูกค้านิยมฉีดโบท็อกซ์กับ PONGSAK CLINIC มีทั้งหมด 9 ตำแหน่ง ได้แก่ โบท็อกซ์หน้าผาก โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว โบท็อกซ์หางตา โบท็อกซ์ปีกจมูก โบท็อกซ์ลดริ้วรอย โบท็อกซ์มุมปาก โบท็อกซ์กราม โบท็อกซ์ลิฟหน้า โบท็อกซ์รักแร้
ฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก
ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้า การฉีดสารโบท็อกซ์ช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ พร้อมป้องกันการพัฒนาจนกลายเป็นริ้วรอยร่องลึกในอนาคต
ฉีดโบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว
หรือโบท็อกซ์ยกคิ้ว เป็นหนึ่งในบริเวณที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายมากไม่ต่างจากบริเวณหน้าผาก ส่วนใหญ่จะเกิดจากการขมวดคิ้ว เกิดเป็นรอยย่นทำให้ดูแก่กว่าวัย การฉีดโบท็อกซ์บริเวณนี้ ช่วยยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยลดเลือนริ้วรอยไม่พอ ยังช่วยยกคิ้วให้สูงขึ้น และเสริมเรื่องโหงวเฮ้งได้อีกด้วย
ฉีดโบท็อกซ์หางตา
นอกจากบริเวณโบท็อกซ์ยกคิ้วแล้ว บริเวณหางตาเองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ช่วยแก้ปัญหาหางตาตก ลดการดึงรั้งหางตา พร้อมลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาได้ด้วย
ฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก
ช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณปีกจมูก ทำให้ปีกจมูกกระชับ ดูเล็กลง ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาปีกจมูกบาน ปีกจมูกใหญ่ เป็นต้น
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย
เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยก็เกิดขึ้นง่ายกว่าเดิม และคงไม่มีใครอยากดูแก่แน่นอน การฉีดโบท็อกซ์ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย ทั้งบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หางตา รอยย่นจมูก คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ช่วยให้ผิวหน้ายกกระชับ และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตด้วย
ฉีดโบท็อกซ์มุมปาก
เมื่อฉีดโบท็อกซ์บริเวณนี้ จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ Depressor anguli oris ช่วยยกมุมปากขึ้น เปลี่ยนใบหน้าหย่อนคล้อย ดูดุ ให้ดูเป็นมิตร และดูอ่อนเยาว์ไปพร้อม ๆ กัน
ฉีดโบท็อกซ์กราม
หรือที่หลายคนเรียกว่า โบท็อกซ์ลดกราม ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อ ดูเรียวกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งทำควบคู่กับฉีดโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า ก็จะยิ่งเห็นกรอบหน้าชัดเจน เข้ารูปมากยิ่งขึ้น
โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า
ส่วนโบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า เป็นการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ ช่วยให้ใบหน้ากระชับ ดูมีมิติมาก และมองเห็นกรอบหน้าได้อย่างชัดเจน
ฉีดโบท็อกซ์รักแร้
และจุดสุดท้าย คือ การฉีดโบท็อกซ์ใต้รักแร้ ช่วยยับยั้งการผลิตเหงื่อได้มากถึง 80% ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่นตัวไม่พึงประสงค์ ช่วยให้คุณใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจได้ในขั้นตอนเดียว
โบท็อกซ์มีกี่ยี่ห้อ? ควรเลือกโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี ?
ปัจจุบัน โบท็อกซ์มีหลากหลายยี่ห้อในคลินิกเสริมความงามและสถานพยาบาล โดยยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ลูกค้านิยมเลือกฉีดกับ PONGSAK CLINIC ได้แก่ โบเยอรมัน (Pure Toxin) โบเกาหลี (Botulax) และโบท็อกซ์อเมริกา (Allergan)
โบเยอรมัน (Pure Toxin)
โบเยอรมัน หรือ Pure Toxin เป็นหนึ่งในโบที่ได้รับความนิยมในไทย เนื่องจาก มีโมเลกุลขนาดเล็ก และมีความบริสุทธิ์สูง ทำให้โอกาสจะดื้อโบท็อกซ์ มีน้อยมาก ผลลัพธ์หลังฉีดแลดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ในราคาที่จับต้องได้ และยังผ่านการรับรองจากอย.ไทย US FDA และยุโรปอีกด้วย
โบเกาหลี (Botulax)
เป็นโบสัญชาติเกาหลี ที่นิยมไม่แพ้โบเยอรมัน เนื่องจาก มีราคาถูกกว่าแบรนด์อื่น ๆ แต่คุณภาพดี ช่วยลดเลือนริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูมิติได้เช่นกัน
โบท็อกซ์อเมริกา (Allergan)
ในขณะที่โบท็อกซ์อเมริกา เป็นโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เนื่องจาก สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ ที่สำคัญผลลัพธ์หลังการฉีดโบท็อกซ์ยังอยู่ได้นานกว่าโบแบรนด์อื่นถึง 10-20% และยังมีความบริสุทธิ์สูงที่สุดอีกด้วย หมดกังวลเรื่องดื้อโบท็อกซ์ไปได้เลย
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ควรเตรียมตัวอย่างไร?
เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ มีเงินฉีดโบท็อกซ์อย่างเดียวไม่พอ การเตรียมตัวก่อนจะทำการฉีดโบท็อกซ์ก็มีความสำคัญเช่นกัน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้
- งดนวดหน้า ซาวน่า เลเซอร์ หรือยกกระชับหน้า ประมาณ 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ 1 วัน
- งดวิตามิน อาหารเสริม และยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กลุ่มยา NSAIDS วิตามินอี ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา เป็นต้น
- แจ้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติแพ้ยาหรืออาหารกับเจ้าหน้าที่ก่อนทำการฉีดโบท็อกซ์ทุกครั้ง
- ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ควรตรวจสอบกล่องยาว่าเป็นของแท้ไหมทุกครั้ง
หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรดูแลผิวและปฏิบัติตัวอย่างไร ?
นอกจากการเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์แล้ว การดูแลผิวหลังการฉีดเองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยผลลัพธ์หลังการฉีดจะอยู่ได้นานแค่ไหนก็อยู่ที่การดูแลผิวเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักเช่นกัน
- งดจับหรือนวดบริเวณที่รักษา เพราะอาจมีผลต่อการกระจายตัวของยา
- หลังฉีดโบท็อกซ์ 4 ชั่วโมง เป็นช่วงที่ตัวยากำลังซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อ งดนอนราบหรือนอนตะแคง เพราะยาอาจเคลื่อนจากตำแหน่งที่แพทย์วางไว้
- งดทำหัตถการ หรือนวดหน้า 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง และทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
- งดออกกำลังกายอย่างหนัก 3 วัน
- งดการทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น กรดวิตามินเอ AHA BHA หรือวิตามินซี 24 ชั่วโมง
หลังฉีดโบท็อกซ์ห้ามกินอะไรบ้าง?
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์
- งดรับประทานอาหารในสถานที่หรือหน้าเตาร้อน ๆ เช่น การอบไอน้ำ ซาวน่า ปิ้งย่าง ชาบู หรือหมูกระทะ
โบท็อกซ์เหมาะกับใครบ้าง?
สำหรับผู้ที่เหมาะสมที่จะฉีดโบท็อกซ์ สามารถแบ่งได้ 4 กลุ่ม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้า เห็นกรอบหน้าชัดเจน
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่ประสบปัญหาเหงื่อใต้รักแร้เยอะจนหมดความมั่นใจ รวมถึงผู้ที่มีปัญหากลิ่นตัว
มัดรวมข้อดีและข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์
ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์
- คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างตรงจุด
- ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็ก และดูสมดุลมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจ
- ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ พร้อมชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต
- ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์ไม่มีข้อเสียแต่อย่างใด แต่ผลลัพธ์หลังการฉีดไม่ได้คงอยู่ถาวร โดยผลลัพธ์หลังการฉีดจะอยู่สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ การดูแลผิวหลังการฉีด หลังจากนั้นโบท็อกซ์จะค่อย ๆ สลายไปเอง โดยสามารถฉีดใหม่ได้เรื่อย ๆ และไม่เป็นอันตรายต่อผิว
ฉีดโบท็อกซ์ดีไหม ?
การฉีดโบท็อกซ์ ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยหย่อนคล้อย หรือผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า โดยโบท็อกซ์ สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างตรงจุด พร้อมคืนความสดใสให้กับใบหน้า และยังสามารถปรับรูปหน้า กระชับใบหน้าได้ด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อเยอะ ก็สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้เช่นกัน การฉีดโบท็อกซ์นอกจากจะไม่ต้องผ่าตัด หรือพักฟื้นแล้ว ยังเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงชัดเจน ในราคาที่จับต้องได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่สนใจฉีดโบท็อกซ์กับ PONGSAK CLINIC สามารถขอคำปรึกษาแพทย์หรือสอบถามโปรโมชันประจำเดือนได้ที่นี่
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์
โบท็อกซ์ ควรเริ่มฉีดตอนอายุเท่าไร
ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดโบท็อกซ์ กี่วันเห็นผลนั้น ส่วนใหญ่จะสามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังการฉีด และจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ และผิวแต่ละบุคคลด้วย
ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์ อยู่ได้นานกี่เดือน ?
ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ โดยทั่วไปอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ต่อการฉีด 1 ครั้ง โดยอายุการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์นั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ และการดูแลผิวหลังการฉีด
ควรฉีดโบท็อกซ์ทุกกี่เดือน?
ควรเติมโบท็อกซ์เว้นจากครั้งล่าสุดอย่างน้อย 3 เดือน และไม่ควรเกิน 6 เดือน เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ ทำให้ต้องใช้ปริมาณโบท็อกซ์เพิ่มมากขึ้น
ฉีดโบท็อกซ์เจ็บไหม?
โดยทั่วไปก่อนจะเริ่มฉีดโบท็อกซ์ แพทย์จะทำการทายาชาก่อนทำหัตถการทุกครั้ง ดังนั้น การฉีดโบท็อกซ์จึงไม่รู้สึกเจ็บ หรือแทบจะไม่รู้เจ็บเลยนั่นเอง
ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อกซ์ มีอะไรบ้าง?
- งดนอนราบหรือนอนตะแคง 4 ชั่วโมงหลังฉีด
- งดนวดหน้า ซาวน่า หรือทำหัตถการ 2 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือออกกำลังกายหนัก 3 วันหลังฉีด
หลังฉีดโบท็อกซ์ใช้เวลากี่วัน สามารถแต่งหน้าได้
หลังจากฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่ผิวแล้ว งดแต่งหน้าอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง หรือ 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหลังจากฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งที่บอบบาง ช่วยให้ผิวฟื้นฟูอย่างเหมาะสม และยังลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อีกด้วย
ฉีดโบท็อกซ์มาแล้วไม่เห็นผล เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ?
- การผสมโบท็อกซ์เจือจางเกินไป
- จำนวนยูนิตที่ใช้อาจน้อยเกินไป
- แพทย์ฉีดไม่ตรงตำแหน่งมัดกล้ามเนื้อ
- หลังฉีดโดนความร้อน ทำให้โบท็อกซ์สลายได้ไว
- ฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไป หรือเจอโบท็อกซ์ที่ไม่มีคุณภาพ หรือโบท็อกซ์ปลอม จนเกิดอาการดื้อโบท็อกซ์
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย และเห็นประสิทธิภาพชัดเจนหลังการฉีด ควรเลือกใช้บริการกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน และมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเป็นผู้ดำเนินการรักษา
ฉีดโบท็อกซ์อันตรายไหม?
โบท็อกซ์เป็นนวัตกรรมที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากอย.ไทย และทั่วโลก และใช้ในการรักษาและทำหัตถการมาอย่างยาวนาน ดังนั้น โบท็อกซ์ของแท้ จึงไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด นอกจากจะเจอโบท็อกซ์ปลอม หรือโบท็อกซ์ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งนอกจากจะไม่เห็นผลลัพธ์แล้ว ยังอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย
โบท็อกซ์ สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ไหม?
แนะนำว่าควรเว้นระยะห่างจากหัตถการอื่น ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการกระทบกับตัวยา และควรดูผลลัพธ์ของโบท็อกซ์หลังการฉีดโบท็อกซ์ก่อนด้วย