โบท็อกซ์กราม อัปเดต ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ต้องรู้อะไรบ้าง?

โบท็อกซ์ลดกราม ฉีดโบลดกราม รู้จักฉีดโบท็อกซ์ หน้าเรียว นวัตกรรมปรับรูปหน้าที่จะเสริมความมั่นใจให้กับใบหน้าคุณ ขับเสน่ห์บนใบหน้าคุณให้น่าดึงดูดมากกว่าที่เคย เพราะใบหน้า เปรียบเสมือน First Impression ที่จะสร้างความประทับใจให้กับคุณตั้งแต่ครั้งแรกเห็น เสริมความงามอย่างปลอดภัย ด้วยบริการและนวัตกรรมระดับ Gold Standard จากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการมากประสบการณ์ ต้อง PONGSAK CLINIC เท่านั้น พร้อมตอบคำถามยอดฮิตฉีดลดกรามช่วยให้หน้าเรียวจริงไหม? โบท็อกซ์กราม กี่วันเห็นผล ก่อนฉีดโบท็อกซ์ต้องรู้อะไรบ้าง? ฉบับอัปเดต 2024 ครบจบที่นี่ โบท็อกซ์กราม คืออะไร ช่วยเสริมเสน่ห์บนใบหน้าได้อย่างไร ? โบท็อกซ์กราม หรือฉีดโบท็อกลดกราม คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สารโบท็อกซ์ เข้าไปที่กล้ามเนื้อกราม ซึ่งมีคุณสมบัติในการหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวลงนั่นเอง ส่วนคำถามที่ว่าการฉีดโบลดกราม ช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับใบหน้าได้อย่างไรนั้น เกิดจากการที่สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เข้ายับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทอะซีติลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อจึงคลายตัวลง ทำให้ใบหน้าเรียว ดูเล็กลง และสามารถเห็นกรอบหน้าได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น […]

Table of Contents

โบท็อกซ์ลดกราม ฉีดโบลดกราม รู้จักฉีดโบท็อกซ์ หน้าเรียว นวัตกรรมปรับรูปหน้าที่จะเสริมความมั่นใจให้กับใบหน้าคุณ ขับเสน่ห์บนใบหน้าคุณให้น่าดึงดูดมากกว่าที่เคย เพราะใบหน้า เปรียบเสมือน First Impression ที่จะสร้างความประทับใจให้กับคุณตั้งแต่ครั้งแรกเห็น เสริมความงามอย่างปลอดภัย ด้วยบริการและนวัตกรรมระดับ Gold Standard จากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการมากประสบการณ์ ต้อง PONGSAK CLINIC เท่านั้น พร้อมตอบคำถามยอดฮิตฉีดลดกรามช่วยให้หน้าเรียวจริงไหม? โบท็อกซ์กราม กี่วันเห็นผล ก่อนฉีดโบท็อกซ์ต้องรู้อะไรบ้าง? ฉบับอัปเดต 2024 ครบจบที่นี่

โบท็อกซ์กราม คืออะไร ช่วยเสริมเสน่ห์บนใบหน้าได้อย่างไร ?


โบท็อกซ์กราม หรือฉีดโบท็อกลดกราม คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สารโบท็อกซ์ เข้าไปที่กล้ามเนื้อกราม ซึ่งมีคุณสมบัติในการหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวลงนั่นเอง ส่วนคำถามที่ว่าการฉีดโบลดกราม ช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับใบหน้าได้อย่างไรนั้น เกิดจากการที่สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เข้ายับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทอะซีติลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อจึงคลายตัวลง ทำให้ใบหน้าเรียว ดูเล็กลง และสามารถเห็นกรอบหน้าได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ฉีดโบลดกราม มีข้อดีอย่างไรบ้าง?


การฉีดโบท็อกลดกรามจากคลินิกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน นอกจากจะช่วยให้รูปหน้าเรียวขึ้นแล้ว ยังมีข้อดีด้านอื่น ๆ อีก ดังนี้

  • เห็นผลชัดเจนและรวดเร็วตั้งแต่หลังรักษา 
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • ราคาค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับหัตถการลดกรามวิธีอื่น ๆ 
  • ใช้เวลาในการทำประมาณ 30-40 นาทีเท่านั้น

อัปเดตโบท็อกซ์กราม ราคาโปรโมชันสุดคุ้ม 2024


การทำโบท็อกซ์กราม ราคาเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ จำนวนยูนิตที่ใช้ และโปรโมชั่นของคลินิก ซึ่งทาง PONGSAK CLINIC มีเจ้าหน้าที่และทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ที่พร้อมจะให้คำปรึกษา พร้อมบริการตรวจและประเมินใบหน้าอย่างละเอียด เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้าคนสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจฉีดโบลดกราม สามารถขอคำปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการได้ฟรี เพื่อเลือกแพ็กเกจฉีดโบท็อกซ์ลดกรามราคาดีที่สุด นอกจากนี้ เรายังมีทรีทเม้นท์ ดูแลเรื่องยกกระชับผิว ไม่ว่าจะเป็น Ulthera และ Thermage อีกด้วย

การฉีดโบท็อกซ์ หน้าเรียวจริงไหม ?


การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกราม และใบหน้าดูเรียวเล็กลงจริง โดยการฉีดโบท็อกซ์ หน้าเรียว จะฉีดบริเวณกล้ามเนื้อกราม ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ทำงานน้อยลง ส่งผลให้กรามเล็กลงจนหน้าดูเรียวขึ้นได้นั่นเอง แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัญหาบนใบหน้าด้วยว่า เกิดจากกล้ามเนื้อ กระดูก หรือไขมัน โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการประเมินอย่างละเอียด เพื่อแนะนำหัตถการที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

ฉีดโบลดกราม เหมาะกับใคร ตอบโจทย์คนกลุ่มไหนบ้าง?


การฉีดโบท็อกซ์ลดกราม นอกจากจะตอบโจทย์คนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหา ดังต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกราม สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เห็นกรอบหน้าชัดเจนมากยิ่งขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจ เสริมเสน่ห์บนใบหน้าให้น่าดึงดูดมากกว่าที่เคย 
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด

ฉีดโบลดกราม ไม่เหมาะกับใคร คนกลุ่มไหนไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ หน้าเรียว?


แม้การฉีดโบท็อกซ์กรามจะช่วยให้มีความมั่น พร้อมเสริมเสน่ห์ให้กับตัวเองแล้ว แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ โดยเฉพาะคนที่เข้าข่ายเคส ดังต่อไปนี้ 

  • ผู้ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือวางแผนตั้งครรภ์
  • กลุ่มคนที่มีประวัติแพ้ง่าย และกลุ่มที่มีอาการเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง โรคเลือด โรคภูมิแพ้
  • ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบ หรือติดเชื้อบริเวณที่ฉีด: ควรหายจากการติดเชื้อก่อน จึงจะฉีดโบท็อกซ์ได้
  • ผู้ที่แพ้สารโบท็อกซ์ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนฉีด

ร้อยไหมยกกระชับหน้า กับโบท็อกซ์ลดกราม แบบไหนดีกว่ากัน?


จริง ๆ แล้วการร้อยไหมยกกระชับหน้า หรือยกกระชับใบหน้าด้วยเส้นไหม กับการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ช่วยให้ใบหน้าเรียวได้เหมือนกัน แต่แตกต่างกันตรงที่ทั้ง 2 วิธี แก้ปัญหาคนละจุด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับว่าปัญหาบนใบหน้าเกิดจากอะไร โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

ร้อยไหมยกกระชับหน้า

เป็นหนึ่งในเทคนิคปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ โดยใช้ไหมละลายชนิดพิเศษ ร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย แก้ปัญหาคาง 2 ชั้น และปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ดูอ่อนกว่าวัย โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยตัวไหมละลายจะเข้าไปกระตุ้นเซลล์ผิวให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใส และเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือต้องการยกกระชับใบหน้าให้เรียวขึ้น

โบท็อกซ์ลดกราม

ในขณะที่โบท็อกซ์ลดกราม เป็นการยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทอะซีดิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งทำหน้าที่ในการควบคุมการหกตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวลง ใบหน้าดูเรียวเล็ก เห็นกรอบหน้าชัดเจนขึ้น โดยฉีดโบลดกรามเหมาะกับคนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ

ฉีดโบท็อกซ์กราม กี่ยูนิต ถึงจะเห็นผล


โดยทั่วไปจำนวนยูนิตโบท็อกซ์กรามจะอยู่ที่ 20-30 ยูนิตต่อข้าง โดยจะขึ้นอยู่กับขนาดกล้ามเนื้อ ซึ่งแต่ละคนจะมีขนาดไม่เท่ากัน ทำให้ปริมาณยูนิตที่ใช้ในการฉีดไม่เท่ากัน รวมถึงยี่ห้อโบท็อกซ์ด้วย ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีความเข้มข้นแตกต่างกันไป

ก่อนฉีดโบท็อกซ์กราม ต้องเตรียมตัวอย่างไร?


เพื่อให้ผลลัพธ์การฉีดโบลดกรามมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และลดผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์ ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ควรเตรียมตัวตาม 8 ข้อปฏิบัติ ได้แก่

  • งดใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น Aspirin, Ibuprofen, Naproxen 
  • งดอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามิน E วิตามิน C น้ำมันปลา หรือใบแปะก๊วย 1 สัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยเขียวช้ำจากอาการเลือดออกใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้น
  • งดการทาครีมบำรุงผิวที่มีกลุ่มอนุพันธุ์วิตามินเอ เช่น tretinoin (retin-a) เรตินอยด์ (Retinoid) กรดไกลโคลิค (Glycolic Acid) 
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนการรักษา 
  • หากเคยผ่าตัด ทำศัลยกรรมบนใบหน้า หรือเคยเติมสารเติมเต็มใด ๆ มาก่อน ต้องให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ก่อนทำหัตถการ
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา แพ้อาหาร ต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ก่อนทำหัตถการทุกครั้ง
  • งดวิตามิน อาหารเสริมทุกชนิด ก่อนทำหัตถการ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดเลเซอร์ขน เลเซอร์ผิว สครับผิว นวดหน้า บริเวณที่ต้องการฉีดโบลดกรามประมาณ 3 วันก่อนรับบริการ

เทคนิคการดูแลผิว หลังฉีดโบลดกราม


หลังฉีดโบลดกราม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 

  • หากมีรอยช้ำ บวมแดง สามารถประคบเย็น เพื่อบรรเทาอาการ และห้ามนวดหรือประคบอุ่น
  • หลังโบท็อกซ์กราม 4 ชั่วโมง เป็นช่วงที่ตัวยากำลังซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อ ไม่ควรนอนราบหรือนอนตะแคง เพราะยาอาจเคลื่อนจากตำแหน่งที่แพทย์วางไว้
  • ควรนอนหมอนสูงใน 1 คืนแรกหลังฉีด

หลังฉีดโบลดกราม ข้อห้าม มีอะไรบ้าง?


นอกจากการดูแลตัวหลังฉีดโบท็อกซ์กรามแล้ว ยังมีข้อห้ามที่ผู้ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามควรปฏิบัติตาม เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน และช่วยลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงหลังการฉีดโบท็อกซ์ หน้าเรียวที่อาจขึ้นได้ 

  • งดนอนราบหรือนอนก้มหน้า หรือนอนคว่ำหน้า เพื่อป้องกันอาการบวมหรือรอยช้ำ และป้องกันโบท็อกซ์กระจายไปยังบริเวณอื่น
  • งดทายาผลัดเซลล์ผิว อย่างกรดวิตามินเอหรือวิตามินซีในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
  • งดแช่น้ำร้อน หรืออบซาวน่า อย่างน้อย 48 ชั่วโมง หรือประมาณ 2 สัปดาห์
  • งดการสัมผัสใบหน้า นวด หรือคลึงบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ เพราะอาจทำให้สารโบท็อกซ์กระจายไปที่ส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า อาจทำให้ตาตก คิ้วตก หรือปากเบี้ยวได้  ในช่วง 2 วันแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์กราม
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ประมาณ 2 สัปดาห์
  • งดการออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังการฉีดโบท็อกซ์กราม
  • งดใช้เครื่องสำอางในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์กราม
  • งดอาหารหมักดอง
  • งดสัมผัสความร้อนโดยตรง เช่น ไดร์เป่าผม ปิ้งย่าง หรือชาบู และทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

ผลข้างเคียงหลังฉีดโบลดกราม มีอะไรบ้าง?


โดยทั่วไปแล้วผลข้างเคียงหลังการฉีดโบท็อกซ์กรามมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก และสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ เช่น รอยแดง หรือฉีดโบท็อกซ์ แล้วปวดกรามมาก ที่เกิดจากการทำสารโบท็อกซ์ลดการทำงานของกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อตึง และปวดได้ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว และสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

ฉีดโบท็อกซ์กราม ยี่ห้อไหนดี?


อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ โบท็อกซ์ลดกรามแต่ละยี่ห้อ จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป โดยแพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการตรวจและประเมินปัญหาผิว ก่อนจะแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้ โดยยี่ห้อที่ PONGSAK CLINIC แนะนำมี 3 ยี่ห้อ ได้แก่ โบเยอรมัน (Pure Toxin) โบเกาหลี (Botulax) และโบท็อกซ์อเมริกา (Allergan) โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

โบเยอรมัน (Pure Toxin)

โบเยอรมัน (Pure Toxin) เป็นโปรแกรมการดูแลผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้า ด้วย Botulinum Toxin ที่ผ่านการคิดค้นและผลิตในประเทศเยอรมนี มีความบริสุทธิ์สูง ให้ผลลัพธ์ตรงจุดบริเวณที่ต้องการรักษาโดยเฉพาะเห็นผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพ เสี่ยงต่อการดื้อโบต่ำ เบาสบายผิว และแลดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง จึงเป็นหนึ่งในโบท็อกซ์กรามที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในไทย แถมผ่านการรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยในระดับสากลทั้ง FDA ไทย สหรัฐฯ และยุโรปมากกว่า 20 ประเทศ

โบเกาหลี (Botulax)

โบเกาหลี (Botulax) เป็นยี่ห้อโบยอดนิยม ราคาไม่สูงและมีคุณภาพ อ่อนโยนและมีความบริสุทธิ์ค่อนข้างสูง นิยมใช้ลดริ้วรอยช่วยให้หน้าเรียว เพื่อกรอบหน้าที่ชัดเจน หลังฉีดใบหน้าไม่แข็งตึง คุ้มค่าคุ้มราคา

โบท็อกซ์อเมริกา (Allergan)

ส่วนโบท็อกซ์อเมริกา (Allergan) คือ สารโบทูลินิม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin a) มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% โอกาสดื้อโบท็อกซ์น้อย เห็นผลเร็ว การกระจายตัวยาแคบ มีความแม่นยำสูง อยู่ได้นานกว่ายี่ห้ออื่น 10-20% สามารถแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย ร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย ช่วยให้หน้าเรียวมากขึ้นอีกด้วย และเป็นยี่ห้อโบท็อกซ์กรามที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

แบไต๋ 4 เทคนิค เช็กโบท็อกซ์กรามแท้-ปลอม ต้องดูยังไง?


เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ก่อนจะทำการฉีดโบลดกราม ควรเช็กรายละเอียดโบท็อกซ์ให้ดี ว่าเป็นของแท้ หรือของปลอม โดยมีเทคนิคดังต่อไปนี้ 

  • โบท็อกซ์​ หน้าเรียว ตอนที่กำลังจะฉีดต้องให้แพทย์ แกะกล่อง เปิดขวดใหม่เท่านั้น
  • หลังทำการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ควรขอกล่องและขวดบรรจุภัณฑ์กลับบ้าน หรือถ่ายรูปกล่องและขวดเก็บไว้ ถ้าเป็นของแท้จะมีฉลากภาษาไทยกำกับ ระบุเลขทะเบียนยา วันผลิต และวันหมดอายุอย่างชัดเจน โดยเลข Lot บนกล่องและขวด เลข Lot บนกล่องและขวดจะต้องตรงกัน

รวม 5 เคล็ดลับ ก่อนโบท็อกซ์ลดกราม ที่ไหนดี ต้องพิจารณาเรื่องอะไรบ้าง?


นอกจากจะพิจารณาโบท็อกซ์ของแท้หรือปลอมแล้ว ก่อนจะเลือกคลินิกเสริมความมั่นใจ ความสวยให้กับตัวเอง ด้วยการฉีดโบท็อกซ์​ หน้าเรียว ต้องพิจารณา 5 ข้อต่อไปนี้ ก่อนตัดสินใจใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็น

  • คลินิกเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
  • คลินิกมีแพทย์ผู้ชำนาญประจำการ ทำการฉีดโบท็อกซ์กรามด้วยตัวเอง มีใบรับรอง และมีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ปรับรูปหน้า
  • เช็กก่อนทำการฉีดว่าโบท็อกซ์ที่ใช้เป็นของแท้ โดยแพทย์จะต้องแกะกล่อง ผสมน้ำเกลือ และผสมยาให้ดูต่อหน้า
  • มีการนัดหมาย เพื่อติดตามอาการหลังการทำการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม พร้อมให้คำแนะนำวิธีดูแลผิวหลังทำการฉีดโบท็อกซ์ หน้าเรียวอย่างละเอียด
  • มีรีวิวผู้ใช้บริการจริง จากแหล่งเว็บไซต์รีวิวที่น่าเชื่อถือ มีรูปภาพ หรือคลิปวีดิโออ้างอิง

รวมรีวิว โบท็อกซ์หน้าเรียว กับ PONGSAK CLINIC


รวมรีวิวจากลูกค้าที่มาทำโบท็อกซ์กรามกับทาง PONGSAK CLINIC ส่วนใหญ่พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ โดยพบว่า ใบหน้าเรียวขึ้น ผิวหน้ากระชับ และเห็นกรอบหน้าชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยไม่ต้องพักฟื้น เจ็บน้อย ปลอดภัย และไม่ต้องผ่าตัด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโบท็อกซ์กราม


โบท็อกซ์กราม คืออะไร

โบท็อกซ์กราม หรือการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม เป็นนวัตกรรมปรับรูปหน้าโดยใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) ฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อกราม ยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทอะซีติลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง เห็นกรอบหน้าชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ฉีดโบท็อกซ์กราม กี่วันเห็นผล? โบท็อกซ์กรามอยู่ได้กี่เดือน

โดยทั่วไปการฉีดโบท็อกซ์กราม สามารถเห็นผลได้ชัดเจนและรวดเร็วตั้งแต่หลังทำการฉีด จะพบว่ากรอบหน้ามีขนาดเล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงด้วย ส่วนระยะเวลาการออกฤทธิ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์และการดูแลผิวหลังการฉีด

ฉีดโบท็อกซ์กรามต้องเว้นระยะกี่เดือน ฉีดบ่อย ๆ ได้ไหม?

การฉีดโบท็อกซ์กราม ไม่ควรฉีดต่อเนื่อง ควรเว้นระยะห่างจากครั้งล่าสุดอย่างน้อย 3 เดือน และไม่ควรเว้นระยะเกิน 5-6 เดือน เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานปกติ และอาจต้องใช้ปริมาณโบท็อกซ์มากกว่าเดิมด้วย

ฉีดโบท็อกซ์ หน้าเรียว อันตรายไหม ?

การฉีดโบลดกรามมีความปลอดภัย ไม่อันตรายแต่อย่างใด แต่จะต้องทำการฉีดโบท็อกซ์กรามกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน มีทีมแพทย์ผู้ชำนาญประจำสาขา-ประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ปรับรูปหน้า และคลินิกนั้น ๆ จะต้องนำเข้าโบท็อกซ์แท้อย่างถูกต้อง และที่สำคัญควรปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

ฉีดโบท็อกซ์ลดกรามเจ็บไหม ?

การฉีดโบท็อกซ์กรามไม่เจ็บ หรือเจ็บเล็กน้อย เพราะก่อนจะทำหัตถการ ทีมแพทย์จะทำการฉีดยาชา และประคบเย็นระหว่างทำ เพื่อลดการไหลเวียนของเลือดบริเวณที่ฉีดทำให้การกระจายยาไม่เป็นวงกว้างเกินไป ได้ผลเฉพาะจุดที่ต้องการ ทั้งนี้ หากกลัวเจ็บมาก ๆ สามารถปรึกษาแพทย์ เพื่อแปะยาชาก่อนการฉีดโบท็อกซ์ได้

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์กราม

  • งดใช้ยากลุ่มผลัดเซลล์ผิวอย่าง วิตามิน A, BHA, AHA ประมาณ 1-2 วัน ก่อนฉีดโบท็อกซ์กราม
  • ก่อนฉีดควรงดดื่มแอลกอฮอลล์และงดสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมง 
  • งดใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม เช่น Aspirin, Ibuprofen, Naproxen 
  • งดอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามิน E วิตามิน C น้ำมันปลา หรือใบแปะก๊วย 1 สัปดาห์
  • งดการทาครีมบำรุงผิวที่มีกลุ่มอนุพันธุ์วิตามินเอ เช่น tretinoin (retin-a) เรตินอยด์ (Retinoid) กรดไกลโคลิค (Glycolic Acid) 
  • หากเคยผ่าตัด ทำศัลยกรรมบนใบหน้า หรือเคยเติมสารเติมเต็มใด ๆ มาก่อน ต้องให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ก่อนทำหัตถการ
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา แพ้อาหาร ต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ก่อนทำหัตถการทุกครั้ง
  • งดเลเซอร์ขน เลเซอร์ผิว สครับผิว นวดหน้า บริเวณที่ต้องการฉีดโบลดกรามประมาณ 3 วันก่อนรับบริการ

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ลดกราม

  • หากมีรอยช้ำ บวมแดง สามารถประคบเย็น เพื่อบรรเทาอาการ และห้ามนวดหรือประคบอุ่น
  • หลังโบท็อกซ์กราม 4 ชั่วโมง เป็นช่วงที่ตัวยากำลังซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อ ไม่ควรนอนราบหรือนอนตะแคง เพราะยาอาจเคลื่อนจากตำแหน่งที่แพทย์วางไว้
  • ควรนอนหมอนสูงใน 1 คืนแรกหลังฉีด
  • งดนอนราบหรือนอนก้มหน้า หรือนอนคว่ำหน้า เพื่อป้องกันอาการบวมหรือรอยช้ำ และป้องกันโบท็อกซ์กระจายไปยังบริเวณอื่น
  • งดทายาผลัดเซลล์ผิว อย่างกรดวิตามินเอหรือวิตามินซีในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
  • งดแช่น้ำร้อน หรืออบซาวน่า อย่างน้อย 48 ชั่วโมง หรือประมาณ 2 สัปดาห์
  • งดการสัมผัสใบหน้า นวด หรือคลึงบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ เพราะอาจทำให้สารโบท็อกซ์ละลายไปที่ส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า อาจทำให้ตาตก คิ้วตก หรือปากเบี้ยวได้  ในช่วง 2 วันแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์กราม
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ประมาณ 2 สัปดาห์
  • งดการออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังการฉีดโบท็อกซ์กราม
  • งดใช้เครื่องสำอางในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์กราม
  • งดอาหารหมักดอง
  • งดสัมผัสความร้อนโดยตรง เช่น ไดร์เป่าผม ปิ้งย่าง หรือชาบู และทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

โบท็อกซ์กราม ยี่ห้อไหนดี

โบท็อกซ์กราม ในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ โดยยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ PONGSAK CLINIC แนะนำมี 3 ยี่ห้อ ได้แก่ โบเยอรมัน (Pure Toxin) โบเกาหลี (Botulax) และโบท็อกซ์อเมริกา (Allergan) ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ

ข้อดีของการฉีดโบลดกราม มีอะไรบ้าง?

  • เห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่หลังรักษา 
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • ไม่เจ็บหรือเจ็บน้อย
  • ราคาค่อนข้างถูก

ฉีดโบท็อกซ์กราม ที่ไหนดี?

ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์ลดกรามกับแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกซ์ หรือปรับรูปหน้า จากคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล