Coolsculpting คืออะไร สลายไขมันด้วยความเย็น ได้ผลไหม
เทคโนโลยี สลายไขมันด้วยความเย็น ลดไขมันด้วยความเย็น กระชับสัดส่วนด้วยความเย็น
- Coolsculpting คืออะไร? สลายไขมันด้วยความเย็น ช่วยสลายไขมันได้อย่างไร?
- ทำ Coolsculpting มีข้อดีอย่างไร?
- อัปเดต Coolsculpting สลายไขมันราคาดีที่สุด กับ PONGSAK CLINIC
- Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ใช้เวลาทำนานเท่าไร ?
- CoolSculpting ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ?
- Coolsculpting ได้ผลไหม ?
- CoolSculpting ไม่ได้ผล เกิดจากอะไร ?
- CoolSculpting ทำส่วนไหนได้บ้าง ?
- เครื่อง Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น มีหัวกี่แบบ?
- ก่อนทำ Coolsculpting ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
- การดูแลผิวหลังทำ Coolsculpting
- รวมข้อควรรู้ก่อนทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
- Coolsculpting ลดไขมันด้วยความเย็น เหมาะกับใครบ้าง?
- ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับ Coolsculpting
- ทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไรบ้าง?
- เลือกทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ที่ไหนดี?
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Coolsculpting
จะทนมีห่วงยาง เซลลูไลท์ ไขมันส่วนเกินบนร่างกายไปทำไม ในเมื่อมีนวัตกรรมสลายไขมันบนร่างกายได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทำความรู้เครื่อง Coolsculpting คืออะไร ลดไขมันด้วยความเย็น ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? ทำ Coolsculpting ต้นขา สลายไขมันหน้าท้องผ่านเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น มั่นใจปลอดภัย เห็นผลลัพธ์หลังทำกับ PONGSAK CLINIC พร้อม Coolsculpting รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ลดไขมันด้วยความเย็น สลายไขมันหน้าท้อง ราคาดีที่สุด ต้องที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
Coolsculpting คืออะไร? สลายไขมันด้วยความเย็น ช่วยสลายไขมันได้อย่างไร?
Coolsculpting คือ การสลายไขมันด้วยความเย็น ลดไขมันด้วยความเย็น เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นจัดประมาณ -11 ถึง -13°C แช่แข็งเฉพาะเซลล์ไขมันในชั้นใต้ผิวหนังที่ต้องการสลายไขมันออก ด้วยกระบวนการไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) โดยเซลล์ไขมันจะมีความไวต่ออุณหภูมิมากกว่าเซลล์ชนิดอื่น เมื่อได้รับความเย็นจัด เซลล์ไขมันจะแข็งตัวและโดนกำจัดออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองในที่สุด ทำให้บริเวณที่ทำการลดไขมันด้วยความเย็น กระชับมากยิ่งขึ้น ช่วยลดสัดส่วนได้และทำลายเซลล์ไขมันได้อย่างถาวร
กระบวนการไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) ในเครื่อง Coolsculpting คืออะไร?
Cryolipolysis เป็นเทคโนโลยีสลายไขมันใต้ผิวหนังด้วยความเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หลังทํา Coolsculpting สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็น ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US. FDA จากสหรัฐอเมริกา และ อย.ไทย ช่วยสลายไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำ Coolsculpting มีข้อดีอย่างไร?
การสลายไขมันด้วยความเย็น (Coolsculpting) นอกจากจะช่วยสลายไขมันได้แล้ว ยังมีข้อดีด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินได้อย่างถาวร
- ทำลายเซลล์ไขมันได้มากถึง 25-30 % ตั้งแต่ครั้งแรก
- ไม่มีแผลเป็น ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
- ช่วยกระชับผิว สัดส่วนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- ไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนอื่นผิวชั้นนอก หรือบริเวณข้างเคียง
- ปลอดภัย ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล US FDA และอย.ไทย
อัปเดต Coolsculpting สลายไขมันราคาดีที่สุด กับ PONGSAK CLINIC
กระชับหุ่นสวยสับ รับซัมเมอร์ จบปัญหาผิวส้ม ลดเซลลูไลท์ ไขมันส่วนเกิน ด้วย Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นที่ PONGSAK CLINIC ดำเนินการรักษาและบริการด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการสลายไขมันหน้าท้อง ราคาพิเศษ Coolsculpting ต้นขา สลายไขมันราคาคุ้มที่สุด มั่นใจปลอดภัย เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ลดไขมันด้วยความเย็นด้วย Coolsculpting รีวิว Coolsculpting รีวิวต้นแขน สลายไขมันด้วยความเย็น รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง สำหรับผู้ที่สนใจทำ Coolsculpting กับเรา สามารถขอคำปรึกษาแพทย์และสอบถามแพ็กเกจหรือโปรโมชันได้พิเศษประจำเดือนได้ที่นี่
Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ใช้เวลาทำนานเท่าไร ?
ส่วนระยะเวลาในการทำ Coolsculpting จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการสลายไขมัน และหัวที่ใช้ โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 35 นาที ต่อ 1 ตำแหน่งที่ทำ
CoolSculpting ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ?
CoolSculpting เป็นเทคนิคที่ใช้ความเย็นเพื่อกำจัดเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนัง โดยมีการวิจัยทางการแพทย์มากกว่า 50 งานที่ยืนยันว่า CoolSculpting สามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันในบริเวณที่ทำการรักษาได้ 20-30% ต่อการทำครั้งเดียว ซึ่งสามารถทำซ้ำได้ในจุดเดิมเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
วิธีการทำงานของ CoolSculpting คือการแช่แข็งเซลล์ไขมันที่ไวต่อความเย็นมากกว่าเซลล์อื่น ๆ ในผิวหนัง หลังการรักษา ในช่วง 3-4 สัปดาห์แรกจะเริ่มเห็นผลการลดขนาดของสัดส่วน ขณะที่ผลลัพธ์เต็มที่จะปรากฏหลังจาก 3 เดือน
ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกหลังการทำ CoolSculpting อาจจะมีผิวแดงบริเวณจุดที่เซลล์ไขมันตาย และต้องใช้เวลาให้ร่างกายค่อย ๆ ลำเลียงเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบเลือดและระบบน้ำเหลือง ระยะเวลาในการฟื้นตัวจากอาการปวดระบมทั่วไปคือ 7-10 วัน
Coolsculpting ได้ผลไหม ?
การสลายไขมันด้วยเครื่อง CoolSculpting เป็นวิธีที่ใช้ความเย็นในการลดไขมันในพื้นที่เฉพาะ โดยทั่วไป การทำ CoolSculpting หนึ่งครั้งสามารถสลายไขมันได้ประมาณ 60-70 ซีซี เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในกรณีส่วนใหญ่ มักจะต้องทำการสลายไขมัน 2-4 ครั้ง
CoolSculpting ไม่ได้ผล เกิดจากอะไร ?
หาก CoolSculpting ไม่ได้ผล อาจมีสาเหตุหลักๆ คือ
- มีปริมาณไขมันมากเกินไป
บางครั้ง CoolSculpting อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปริมาณไขมันมากเกินไป ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนตามที่คาดหวัง เนื่องจากการทำ CoolSculpting เหมาะสำหรับการลดไขมันในพื้นที่ที่มีไขมันสะสมไม่มาก คลินิกที่ดีควรมีการประเมินอย่างตรงไปตรงมาและแนะนำว่า CoolSculpting เหมาะสมกับคุณหรือไม่
- ใช้เครื่อง CoolSculpting ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน
การใช้ CoolSculpting ที่ไม่ใช่ของแท้หรือไม่ได้มาตรฐานอาจส่งผลให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังและอาจเกิดอันตรายกับผิว เช่น ผิวไหม้หรือรูปร่างไม่สมส่วน ดังนั้นการเลือกใช้บริการจากคลินิกที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองจึงเป็นสิ่งสำคัญ
การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและประสบการณ์จะช่วยให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น
CoolSculpting ทำส่วนไหนได้บ้าง ?
CoolSculpting สามารถใช้ในการลดไขมันเฉพาะจุดได้ในหลายบริเวณดังนี้
- – บริเวณหน้าท้อง
- – รอบเอว
- – ปีกหลัง
- – ต้นขาด้านใน
- – บริเวณใต้ก้น
- – บริเวณหน้าอกสำหรับผู้ชาย
- – ต้นแขน
- – สะโพก
- – ต้นขาด้านนอก
- – รอบหัวเข่า
- – เหนียง/ใต้คาง
การใช้ CoolSculpting จะใช้หัว Applicator ที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการรักษา โดยแต่ละหัว Applicator ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับพื้นที่และลักษณะไขมันในแต่ละจุด
เครื่อง Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น มีหัวกี่แบบ?
เครื่องกำจัดไขมันด้วยความเย็น สามารถแบ่งได้หลายหัวแอปพลิเคเตอร์ (Applicator) ได้แก่ Cool Mini, Cool Adventage และ Cool Smooth PRO ซึ่งแบบจะเหมาะกับการสลายไขมันบริเวณที่แตกต่างกัน โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจะประเมินตามความเหมาะ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
Cool Mini
ใช้ลดไขมันบริเวณที่มีไขมันไม่เยอะมาก เช่น เหนียง เนื้อใต้รักแร้ เหนือหน้าอกผู้หญิง เนื้อบริเวณเหนือหัวเข่า
Cool Advantage
เป็นหัวที่ใช้นิยมสลายไขมันด้วยความเย็นมากที่สุด โดยจะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันปานกลาง ใช้สลายไขมันหน้าท้อง แขน หน้าอกผู้ชาย ปีกหลัง สลายไขมันต้นขาด้านใน ใต้ก้น เป็นต้น
Cool Advantage Plus
เหมาะสลายไขมันหน้าท้อง บริเวณที่มีไขมันสะสมเป็นบริเวณกว้าง
Cool Petite Advantage
เหมาะกับผู้ที่มีไขมันระดับปานกลาง หรือเคยทำ Cool Advantage แล้ว
Cool Smooth PRO
นิยมใช้บริเวณงหน้าท้องส่วนบน ห่วงยางรอบเอว ต้นขาด้านนอก และใต้สะโพกลงมา
ก่อนทำ Coolsculpting ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ก่อนทำ Coolsculpting ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมาก สามารถทานอาหาร ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตประจำได้ตามปกติเหมือนก่อนทำทรีทเม้นท์ทั่วไป ทั้งนี้ หากมีบาดแผล ผดผื่นบริเวณผิวหนัง หรือเป็นโรคผิวหนังตรงบริเวณที่ต้องการทำ ควรทำการรักษาให้หายก่อน
การดูแลผิวหลังทำ Coolsculpting
เพื่อรักษารูปร่างที่กระชับได้สัดส่วน หลังสลายไขมันด้วย Coolsculpting แล้ว ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคู่กับการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อป้องกันการสะสมเซลล์ไขมันใหม่ในร่างกาย
รวมข้อควรรู้ก่อนทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
ก่อนตัดสินใจทำลดไขมันด้วยความเย็น ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญก่อน โดยแพทย์จะทำการประเมินรูปอย่างละเอียด เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด โดยเครื่อง Coolsculpting เหมาะกับผู้ที่มีค่า BMI ไม่เกิน 35 เนื่องจาก ผู้ที่มีค่า BMI>35 หลังทำอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้ และต้องใช้เวลาทำหลายครั้งกว่าจะเห็นผลนั่นเอง
Coolsculpting ลดไขมันด้วยความเย็น เหมาะกับใครบ้าง?
การสลายไขมันด้วยความเย็น หรือ Coolsculpting สามารถตอบโจทย์ความต้องการและเหมาะสมกับกลุ่มคนหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น
- ผู้ที่ต้องการสลายไขมันแบบถาวร
- ผู้ที่มีไข้มันที่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหาร
- ผู้ที่ต้องการลดปัญหาไขมันสะสมตามร่างกาย โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือดูดไขมัน
- ผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนร่างกายให้สมส่วนมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีไขมันเฉพาะจุด ถึงแม้จะไม่ได้อ้วนก็ตาม เช่น ต้นขาเบียด พุงล่าง เป็นต้น
- ผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจให้กับรูปร่างมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่เพิ่งผ่านการคลอดลูก
- ผู้ที่ต้องการลดเซลล์ไขมันใต้ผิวหนัง แบบไม่ต้องพักฟื้นนาน และไม่อยากมีแผลเป็น
- ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ไม่เกิน 30
ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับ Coolsculpting
ด้วยคุณสมบัติในการสลายไขมันได้อย่างตรงจุดของ Coolsculpting เชื่อว่าหลายคนต้องอยากทำแน่นอน แต่จริง ๆ แล้วการสลายไขมันด้วยความเย็น ไม่สามารถทำได้ทุกคน โดยมีคนบางกลุ่มที่ไม่เหมาะกับการทำลดไขมันด้วยความเย็น โดยสามารถแบ่งได้ 5 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน หรือมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 30 เนื่องจาก เห็นผลลัพธ์ความแตกต่างน้อย และอาจต้องใช้เวลาในการทำหลายครั้ง
- ผู้ที่มีไขมันน้อยเกินไป
- ผู้ที่ทานยาละลายลิ่มเลือดหรือยาที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัวตามปกติ
- ผู้ที่มีภาวะไวต่อความเย็น
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น ไส้เลื่อน โรคกลัวความเย็น เลือดแข็งตัวผิดปกติ
- ผู้ที่ติดอุปกรณ์ ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรืออุปกรณ์ควบคุมการเต้นของหัวใจ ผู้ที่เพิ่งผ่าตัดบริเวณที่ต้องการสลายไขมัน ฯลฯ
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างการให้นมบุตร
- ผู้ที่มีแผลเปิด ผิวหนังอักเสบ หรือติดเชื้อในบริเวณที่จะรักษา
ทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไรบ้าง?
ข้อดีของการทำ Coolsculpting ลดไขมันด้วยความเย็น
- ลดเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังได้มากถึง 25-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง
- ใช้เวลาในการสลายไขมันไม่นาน
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
- ไม่ทำลายผิวชั้นนอก หรือบริเวณใกล้เคียง
- เห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่หลังทำครั้งแรก
- เป็นวิธีทำลายเซลล์ไขมันอย่างถาวร
- สามารถลดไขมันเฉพาะตำแหน่งได้อย่างตรงจุด
ข้อเสียของการทำ Coolsculpting เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น
โดยรวมแล้ว การลดไขมันด้วยความเย็น ไม่ว่าจะเป็นการสลายไขมันหน้าท้อง Coolsculpting ต้นขา นั้นไม่มีข้อเสียแต่อย่างใด แต่ระหว่างการทำอาจมีความรู้สึกตึง ๆ ผิว หรือมีอาการเจ็บนิด ๆ ขึ้นอยู่กับบุคคล ทั้งนี้ ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการจะคอยสอบถามระหว่างการรักษา เพื่อปรับระดับการรักษาที่เหมาะสมและสบายผิวลูกค้ามากที่สุด
เลือกทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น ที่ไหนดี?
เพื่อผลลัพธ์ของการสลายไขมันมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ก่อนเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลทำสลายไขมันด้วยความเย็น ควรพิจารณารายละเอียดเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
- ควรเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ใช้เครื่อง Coolsculpting เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นของแท้
- ทุกขั้นตอนการรักษาจะต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังและความงามโดยเฉพาะ
- มี Coolsculpting รีวิว หรือสลายไขมันด้วยความเย็น รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
- ราคาโปรโมชันหรือแพ็กเกจสลายไขมันสมเหตุสมผล คุ้มค่า คุ้มราคา ไม่ถูกจนเกินไป เนื่องจาก เสี่ยงเจอเครื่อง Coolsculpting เลียนแบบได้ ซึ่งนอกจากจะไม่เห็นผลแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อร่างกายด้วย
ถ้าเลือกใช้บริการกับ PONGSAK CLINIC สามารถจบปัญหาความกังวลใจด้วยเครื่องมือและนวัตกรรมระดับ Gold Standard พร้อมให้บริการด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง มั่นใจเรื่องความปลอดภัย เห็นผลลัพธ์หลังการรักษาตั้งแต่ครั้งแรก ไม่มีการเลี้ยงไข้ และแจ้งค่าใช้จ่ายก่อนทำการรักษาทุกครั้ง หมดกังวลสวยเกินงบ คุ้มค่า คุ้มราคา สลายไขมันราคาดีที่สุดต้อง PONGSAK CLINIC เท่านั้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Coolsculpting
ผลลัพธ์หลังการสลายไขมันด้วย Coolsculpting
หลังทํา Coolsculpting จะพบว่า สัดส่วนลดลง รูปร่างจะค่อย ๆ ดีขึ้นมากขึ้นเรื่อง ๆ เนื่องจาก การสลายไขมันด้วยความเย็นเป็นการทำลายเซลล์ไขมันและกำจัดออกจากร่างกายได้อย่างถาวร โดยไม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้นเป็นเวลานาน
Coolsculpting ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ?
Coolsculpting สามารถลดเซลล์ไขมันในชั้นผิวหนังบริเวณที่ทำได้มากถึง 25-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 1-3 เดือน และสามารถกลับมาทำซ้ำในจุดเดิมได้ เพื่อเห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้น
ระหว่างทำ Coolsculpting เจ็บไหม?
การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ระหว่างทำแทบจะไม่มีความรู้สึกเจ็บใด ๆ เนื่องจาก การลดไขมันด้วยความเย็น เป็นการใช้ความเย็นในการหยุดการทำงานของไขมันจนกลายเป็นผลึก และตายลง ก่อนจะโดนกำจัดออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองในที่สุด โดยระหว่างทำจะมีอาการชา ๆ หรือตึง ๆ บริเวณที่ทำ เนื่องจาก ความเย็นลงสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
Coolsculpting มีกี่หัว แต่ละหัวต่างกันอย่างไร เหมาะกับการสลายไขมันตำแหน่งไหนบ้าง ?
- Cool Mini : ลดไขมันบริเวณเหนียง เนื้อใต้รักแร้ เหนือหน้าอก ผู้หญิง เนื้อย้วยเหนือเข่าสำหรับที่ออกกำลังกายไม่ได้
- Cool Advantage : เหมาะกับผู้ที่มีไขมันปานกลาง ใช้สลายไขมันหน้าท้อง แขน หน้าอกผู้ชาย ปีกหลัง สลายไขมันต้นขาด้านใน ใต้ก้น เป็นต้น
- Cool Smooth Pro : ใช้สลายไขมันบริเวณขาด้านนอก และใต้สะโพกลงมา
Coolsculpting ได้ผลไหม ?
Coolsculpting หรือการสลายไขมันด้วยความเย็น ได้ผลจริง โดยการสลายไขมัน 1 ครั้ง หรือ 1 หนีบ สามารถสลายไขมันได้ประมาณ 60-70 CC โดยสามารถลดไขมันได้ประมาณ 25-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง
Coolsculpting ไม่ได้ผล เกิดจากอะไร ?
อาจเกิดจากค่า BMI ที่มากกว่า 35 ซึ่งจะทำให้เห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจน โดยจะต้องใช้เวลาทำหลายครั้ง และกรณีที่สลายไขมันด้วยเครื่อง Coolsculpting ปลอม หรือของเลียนแบบ ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังอาจเกิดอันตรายกับผิวได้อีกด้วย
Coolsculpting ทำส่วนไหนได้บ้าง ?
Coolsculpting สามารถสลายไขมันเฉพาะจุดได้หลายตำแหน่งบนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นคาง ต้นแขน ใต้รักแร้ (นมน้อย) ปีกหลัง สลายไขมันหน้าท้อง ทั้งท้องส่วนบน และส่วนล่าง สะโพก Coolsculpting ต้นขา และก้น เป็นต้น โดยแต่ละจุดจะใช้หัว Applicator ที่แตกต่างกัน
Coolsculpting อันตรายไหม ?
เครื่อง Coolsculpting ผ่านการทดสอบและรับรองมาตรฐานจาก US FDA และอย.ไทย และยังมีงานวิจัยรองรับจากองค์กรระดับโลกกว่า 120 ฉบับ มั่นใจในความปลอดภัย ช่วยสลายไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไขมันที่โดนกำจัดด้วย Coolsculpting มีโอกาสกลับมาอีกได้ไหม?
โดยทั่วไปเซลล์ไขมันที่โดนกำจัดด้วยเครื่อง Coolsculpting ไม่สามารถกลับมาได้อีก ยิ่งหลังทํา Coolsculpting มีการออกกำลังกาย และควบคุมโภชนาการควบคู่กันไป ยิ่งเห็นคงผลลัพธ์และประสิทธิภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ทำ Coolsculpting แทนการออกกำลังกายได้ไหม?
การทำ Coolsculpting สลายไขมันด้วยความเย็น เป็นการสลายไขมันใต้ชั้นผิวหนังเฉพาะจุด ช่วยกระชับสัดส่วนเท่านั้น แต่ไม่สามารถแทนที่การออกกำลังกายได้ ถ้าต้องการเพิ่มความแข็งแรงและความเฟิร์มกระชับให้กับร่างกาย การออกกำลังกายและการควบคุมอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำอยู่