หน้าเหี่ยว เกิดจากอะไร? 13 วิธีแก้หน้าเหี่ยวย่นแบบปลอดภัยและเห็นผล

เชื่อว่าหน้าเหี่ยวก่อนวัย เป็นปัญหาที่สร้างความหนักใจให้ใครหลายๆคนไม่น้อย อาจโดนทักว่าแก่ ทั้งๆ ที่อายุยังน้อย แม้จะพยายามทาครีมหน้าย่นบำรุงผิวมากเท่าไหร่ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามต้องการ ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพ ทำให้สูญเสียความมั่นใจ ขาดความสดใส แต่งหน้าไม่สวย บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักว่าหน้าเหี่ยวคืออะไร เกิดจากสาเหตุใด และมีวิธีป้องกันรักษาอย่างไรบ้าง 

หน้าเหี่ยว คืออะไร

หน้าเหี่ยวคือใบหน้าที่ผิวเริ่มมีความหย่อนคล้อย ขาดความชุ่มชื้น ไม่เต่งตึง ไม่เรียบเนียน ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น มีริ้วรอยบนตำแหน่งต่างๆ ของใบหน้า เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก มีตีนกา มีร่องแก้มลึกและห้อย อาจพบฝ้า กระ จุดด่างดำ ใบหน้ามีความหมองคล้ำ

หน้าเหี่ยวเกิดจากอะไร

ปัญหาหน้าเหี่ยวเกิดขึ้นมาได้จากหลายสาเหตุดังนี้

  • อายุ เมื่อคนเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโครงสร้างของผิวจะเริ่มเสื่อมสภาพ ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ผิวจึงเกิดขาดความยืดหยุ่น เกิดเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่น
  • ดื่มน้ำน้อย น้ำเป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ของเซลล์ร่างกาย หากดื่มน้ำน้อย จะทำให้เซลล์แห้งเหี่ยว ผิวหนังจึงเหี่ยวย่น เกิดเป็นริ้วรอย ผิวหน้าแลดูแก่กว่าวัยได้
  • แสงแดด แสงแดดถือเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำร้ายผิว หากไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ทั้งรังสี UVA และ UVB จากแสงแดด จะทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น เกิดเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่น เป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ และหน้าแก่กว่าวัยได้
  • การทำพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว หน้าย่น เกิดจากการทำพฤติกรรมที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยเช่น การบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ กินอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไป ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำ มีความเครียด วิตกกังวล การขัดถูและเช็ดใบหน้าด้วยความรุนแรง เป็นต้น 
  • การแสดงอารมณ์ทางใบหน้า การแสดงสีหน้าลักษณะต่างๆ เช่น  ยิ้ม เลิกคิ้วบ่อยๆ ย่นหัวคิ้ว ย่นจมูก ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้

13 วิธีแก้หน้าเหี่ยวย่น ปรับผิวให้อ่อนวัย

เมื่อเกิดหน้าเหี่ยวก่อนวัย ไม่รู้ว่าหน้ามีริ้วรอย ทำไงดี ไม่ต้องเป็นกังวลไป เนื่องจากในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์มากมาย ที่ช่วยแก้หน้าเหี่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผล โดยวิธีแก้หน้าย่นมีดังต่อไปนี้

แก้ปัญหาด้วยกลุ่มเครื่องมือมาตรฐาน Gold Standard

นวัตกรรม Ulthera

Ulthera คือเทคโนโลยีช่วยยกกระชับผิวโดยการส่งคลื่นอัลตร้าซาวน์ ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่สูง ที่มีความร้อนประมาณ  60-70°C ยิงผ่านเข้าไปได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ผ่าตัดดึงหน้า จึงช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ช่วยลดเลือนริ้วรอย เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด แก้มห้อย มีคางสองชั้น มีริ้วรอยรอบดวงตาและบริเวณต่างๆ บนใบหน้าและลำคอ หนังตาตก คิ้วตก มุมปากตก ต้องการปรับสภาพผิว กระชับรูขุมขน ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ 

หลังทำ Ulthera สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีประมาณ 20% โดยจะค่อยๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 1-3 เดือน และผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 1-1.5 ปี 

นวัตกรรม Thermage 

Thermage มีหลักการทำงานโดยการยิงพลังงานความร้อนซึ่งเป็นคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Capacitive Monopolar Radiofrequency, CRF) อุณหภูมิอยู่ที่ 40-50°C ลงไปลึกถึงชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน การยิงจะยิงเป็นก้อนพลังงานขนาด 3-4 cm2 จึงครอบคลุมพื้นที่ได้ดีกว่าการยิงเป็นจุด ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย สลายไขมันส่วนเกิน กระชับรูขุมขน ทำให้ใบหน้าเรียบเนียนขึ้น แลดูเด็กลง

หลังทำสามารถเห็นผลทันทีประมาณ 20%  และสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 1-1.5 ปี 

นวัตกรรม Morpheus8 

Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีกระชับผิวใหม่ล่าสุดที่ได้การรับรองจาก US-FDA ประเทศสหรัฐอเมริกาว่าสามารถปล่อยพลังงานเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกสุด (Deep FDA approved fractional technology) มีหลักการทำงานคือการส่งพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency, RF) ผ่าน Gold Coated micropins หรือเข็มเคลือบทองคำขนาดเล็กมาก ลงไปกระตุ้นผิวที่ต้องการรักษาที่ความลึกตั้งแต่ 1-4 มิลลิเมตร โดยเลือกปรับระดับความลึกของพลังงานลงสู่ชั้นผิวที่ต้องการ ด้วย Multi-layer teachnology พลังงานที่ส่งลงไปจะถูกปรับให้เหมาะกับสมกับชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวที่มีความแตกต่างกันของแต่ละบุคคล (Adjustable Depth Fractional Radiofrequency) โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชั้นผิวด้านบน  ช่วยหดกระชับไขมันใต้ผิว ทำให้ผิวกระชับตั้งแต่ผิวชั้นลึก ดูเรียบเนียน อ่อนกว่าวัย พร้อมทั้งยังช่วยกระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling) และชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Remodeling device – SARD) 

เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ต้องการลดเลือนริ้วรอย แก้มย้อย มีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก มีริ้วรอย สามารถทำได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย 

นวัตกรรม Emface 

Emface เป็นเครื่องมือยกกระชับใบหน้าในระดับชั้นกล้ามเนื้อซึ่งเป็นชั้นที่ลึกที่สุดของโครงสร้างใบหน้า โดยไม่มีนวัตกรรมใดให้ผลการยกกระชับได้ลึกถึงชั้นนี้มาก่อน Emface จะผสานเอา 2 พลังงาน คือ Synchronized RF และ HIFES มาทำงานร่วมกัน โดยปล่อยพลังงานสองแบบออกมาพร้อมๆ กัน ในหนึ่ง Applicator   HIFES จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ยกกระชับ ดูหนาแน่นขึ้น ส่วน Synchronized RF จะกระตุ้นผิวชั้นต่างๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย จึงได้ผลลัพธ์เป็นผิวที่ยกกระชับ เต่งตึง และแน่นขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลงและผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว หลังทำต่อเนื่องกัน 4 ครั้ง คงผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานถึง 16 เดือน 

แก้ปัญหาด้วยกลุ่มเครื่องมือพรีเมียม

นวัตกรรม Hifu 

Hifu หรือ High Intensity Focus Ultrasound มีหลักการทำงานโดยการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง เพื่อให้เกิดพลังงานความร้อนประมาณ 65-70 องศาเซลเซียส ลักษณะคล้ายจุดไข่ปลาเล็ก ๆ ขนาด 0.5-1 mm ยิงเรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิวตามแนวที่ต้องการยกกระชับ เมื่อยิงเข้าไปในแต่ละชั้นผิว จะเกิดการหดตัวคล้ายการเย็บผิว พลังงานสามารถส่งไปลึกถึงชั้น SMAS ผลลัพธ์ที่ได้จึงคล้ายการผ่าตัดดึงหน้า สามารถปล่อยความถี่ได้ถึง 1,000 ครั้ง/วินาที ทำให้เส้นประสาทในเนื้อเยื่อผิวหนังไม่รับรู้ความรู้สึก จึงไม่รู้สึกเจ็บขณะทำและไม่ทำให้ผิวหนังชั้นนอกเกิดความเสียหาย ช่วยทำให้ใบหน้ากระชับ ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินให้เพิ่มขึ้น และมีการจัดเรียงตัวใหม่ จึงทำให้ผิวมีความแข็งแรงและความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น 

HIFU สามารถทำได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ลดปัญหาหน้าย่นก่อนวัย ผู้ที่ต้องการยกผิวและเก็บกรอบหน้า ผิวเริ่มหย่อนคล้อย ไม่กระชับ กรอบหน้าเริ่มไม่ชัด มีเหนียงใต้คาง และมีริ้วรอย โดยจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

นวัตกรรม Ultrafomer 

Ultrafomer เป็นเครื่องมือที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและสลายไขมัน ได้ในเครื่องเดียว โดยการส่งการยิงคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงที่เฉพาะเจาะจงที่เรียกว่า MMFU: Micro & Macro Focused ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5-1 mm เข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนังให้เกิดความร้อน เครื่องสามารถส่งพลังงานลงลึกได้ถึงชั้น SMAS ที่เป็นชั้นสำหรับผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิวหนังด้านบน จึงมีความปลอดภัย หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น 

นวัตกรรม Oligio

Oligio เป็นเทคโนโลยีการยกกระชับโดยการใช้ใช้คลื่นวิทยุ Monopalar RF ลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มมากขึ้น และมีการจัดเรียงตัวใหม่ จึงทำให้ผิวกระชับขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยลดลง ส่วนชั้นผิวด้านบนมีความแข็งแรงดูมีสุขภาพดีขึ้น ช่วยกระชับรูขุมขน ผิวดูเรียบเนียน นอกจากนั้นยังช่วยสลายไขมันสะสมส่วนเกิน ทำให้ใบหน้าดูสวยได้รูปมากยิ่งขึ้น จุดเด่นของเครื่อง Oligio คือมีระบบ Skin Temperature Tracking Sensor ใช้ตรวจสอบวัดอุณหภูมิความร้อนของผิวตลอดเวลา

นวัตกรรม Potenza

Potenza เป็นเครื่องยกกระชับผิวด้วยนวัตกรรม 4 MODE Radio Frequency Microneedling รวมเอาคลื่นพลังงาน RF แบบ MONOPOLAR, BIPOLAR, 1 และ 2 Mhz มาไว้ในเครื่องเดียว เพื่อแก้ไขอย่างครอบคลุมทุกปัญหาผิวหน้าของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน โดยมีหลักการทำงาน ดังนี้

  • MONOPOLAR เป็นการส่งพลังงานคลื่นความถี่แบบขั้วเดียว ลงไปในผิวชั้นลึก
  • BIPOLAR  เป็นการส่งพลังงานคลื่นความถี่แบบสองขั้ว มีความเข้มข้นน้อย จึงลงในชั้นผิวระดับในระดับตื้น บริเวณผิวชั้นบน
  • คลื่นความถี่ 1 Mhz ใช้รักษาริ้วรอยเล็กๆ
  • คลื่นความถี่ 2 Mhz ใช้ในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอยที่เห็นได้ชัดและลึก

Potenza สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย ช่วยให้ผิวยกกระชับ เต่งตึง แก้ไขหน้าเหี่ยว กระชับรูขุมขน เพิ่มความเรียบเนียนให้ผิว เพิ่มความชัดของกรอบหน้า ลดเหนียง คางสองชั้น ลดรอยแตกลายผิวเปลือกส้มและหน้าท้องหย่อนคล้อยของคุณแม่หลังคลอด รักษาหลุมสิว รักษาสิวอุดตัน สามาถช่วยผลักตัวยาหรือวิตามินลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อการบำรุงอย่างล้ำลึก 

แก้ปัญหาด้วยกลุ่มหัตถการตัวยา

นวัตกรรม โบท็อกซ์ ​​ 

โบท็อกซ์ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีราคาที่ไม่แพง และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โบท็อกซ์ หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) คือ 

สารสกัดจากแบคทีเรียที่ชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) สารชนิดนี้จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อคลายตัว รอยย่นจึงดูตื้นขึ้น นิยมนำมาใช้ในการลดริ้วรอยบริเวณต่างๆ เช่น ใต้ตา หางตา ระหว่างคิ้ว หน้าผาก มุมปาก ลำคอ ลดกราม เริ่มเห็นผลภายใน 5-7 วันหลังทำ และเห็นผลเต็มที่ภายใน 14 วัน ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 3-4 เดือน ขั้นอยู่กับประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ที่เลือกใช้และการดูแลตัวเองหลังการรักษา

 โปรแกรมฟิลเลอร์ 

ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี เป็นสารที่ปกติแล้วร่างกายผลิตขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ และจะสลายไปได้เอง จึงถือว่ามีความปลอดภัย ใช้สำหรับเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ ให้อิ่มฟู หน้าเหี่ยวจึงดูเต่งตึงมากยิ่งขึ้น และยังช่วยยกกระชับใบหน้าได้ด้วย สามารถฉีดได้หลายส่วนเพื่อปรับรูปหน้าและทำให้แลดูเด็กมากขึ้น เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หน้าผาก ใต้ตา ลดความหมองคล้ำใต้ตา เสริมจมูกและเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก

นวัตกรรม Sculptra 

Sculptra คือ อนุภาคของกรด Poly-L-Lactic ( โพลี-แอล-แลกติก ) หรือ PLLA ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator  เป็นสารที่กระตุ้นให้ร่างกายมีการผลิตคอลลาเจนขึ้นมาเองตามธรรมชาติ การเติม Sculptra จะเติมเข้าสู่ผิวชั้นลึกใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) สารกระตุ้นจะถูกดูดซึมเข้าร่างกายหลังจากเติมประมาณ 2-3 วัน Sculptra ที่ถูกดูดซึมเข้ามานี้จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดึงเซลล์ Macrophages จำนวนมาก มาล้อมรอบอนุภาคของ Sculptra เอาไว้ และส่งสัญญาณให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดในการสร้างเส้นใยคอลลาเจน รวมทั้งเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนัง เข้ามารวมตัวกันมากขึ้น จึงส่งผลทำให้ผิวมีความแข็งแรงและยกกระชับขึ้น หลังจากนั้นอนุภาคของ Sculptra จะค่อยๆ สลายไปเหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนมาแทนที่ จึงได้ผลลัพธ์เป็นผิวที่ฟู กระชับ และแลดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น การฉีดSculptra เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ไม่เต่งตึง ขาดความยืดหยุ่น กรอบหน้าไม่ชัด มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัด 

นวัตกรรม Radiesses 

Radiesse หรือ เรเดียส เป็นสารเติมเต็มที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน มีส่วนประกอบหลักเป็น CaHA (Calcium Hydroxylapatite)  โดยมีหลักการทำงานคือ เมื่อเติม Radiesse เข้าไปใต้ผิวหนัง แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์ (CaHA) จะทำให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่า Extracellular Matrix (ECM) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นโครงตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ใต้ผิวหนังแท้ ทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และยังส่งผลกระตุ้นให้เกิดการสร้างอีลาสตินในชั้นผิวสูงถึง 260% Radiesse จึงเป็นสารเติมเต็มที่ช่วยเติมร่องลึกได้หลายระดับ ช่วยให้ผิวกระชับ แน่น แข็งแรง ดูเต่งตึงขึ้นขึ้นจากการที่ร่างกายมีคอลลาเจนและอิลาสตินเพิ่มมากขึ้น คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี 

นวัตกรรม ร้อยไหม 

การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า เป็นการใช้เข็มนำเส้นไหมละลาย ทำให้บริเวณที่ร้อยไหมเข้าไป ร่างกายจะมีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น  มีการไหลเวียนของเลือดมาบริเวณที่ร้อยไหมมากขึ้น ผิวจึงดูเต่งตึง กระชับมากยิ่งขึ้น วิธีการนี้คงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไหมที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังการรักษา

ต้องการลดหน้าเหี่ยว เพิ่มความสดใส เต่งตึง กระชับ เหมือนย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เข้ามาปรึกษาปัญหาผิวได้ที่ พงศ์ศักดิ์คลินิก เราให้บริการครบเครื่องเรื่องการยกกระชับผิว ด้วยประสบการณ์การยกกระชับผิวของแพทย์มากกว่า 10 ปี จนมีรีวิวจากผู้ใช้บริการมากมายถึงผลลัพธ์ที่ได้ผลเรื่องการยกกระชับ จนกลับมาทำซ้ำ และบอกต่อ ใช้เครื่องมือแท้ที่ได้รับการรับรอง พร้อมมาตรฐานการให้บริการแบบมืออาชีพ คลิกเพื่อสอบถามบริการและโปรโมชั่นสุดคุ้มได้เลย!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ หน้าเหี่ยว

หน้าเหี่ยวเกิดจากอะไร

หน้าเหี่ยวเกิดขึ้นมาได้จากหลายสาเหตุ ทั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้น การโดนทำร้ายจากแสงแดด การทำพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว เช่น ขัดถูใบหน้าอย่างรุนแรง การดื่มน้ำน้อย รวมทั้งการแสดงอารมณ์ทางใบหน้า เช่น ยิ้ม หัวเราะ 

หน้าเหี่ยวคืออะไร

ใบหน้าที่ผิวเริ่มมีความหย่อนคล้อย ขาดความชุ่มชื้น ไม่เต่งตึง ไม่เรียบเนียน ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น มีริ้วรอยบนตำแหน่งต่างๆ ของใบหน้า เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก มีตีนกา มีร่องแก้มลึกและห้อย อาจพบฝ้า กระ จุดด่างดำ ใบหน้ามีความหมองคล้ำ

หน้าเหี่ยวแก้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง

หน้าเหี่ยวสามารถแก้ไขได้ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์หลายวิธี เช่น การทำอัลเทอร่า ไฮฟู เทอร์มาจ การทำ Ultrafomer การฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม เป็นต้น

หน้าเหี่ยวแก้วิธีไหนดีที่สุด

ไม่สามารถบอกได้ว่าการรักษาด้วยวิธีไหนที่ดีที่สุดเนื่องจากปัญหาและสภาพผิวหน้าของแต่ละคนแตกต่างกัน ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมิน และออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด