Ultraformer III ดีไหม? คืออะไร ราคาเท่าไร แตกต่างอย่างไร?
Ultraformer III สามารถเห็นผลได้ชัดเจนตั้งแต่ทำครั้งแรก ทั้งนี้เครื่อง Ultraformer ยังได้รับรองมาตรฐาน ใช้เครื่องจากเกาหลีเกรดพรีเมียม และมีความปลอดภัย จึงมั่นใจได้ว่าทำแล้วได้ผลจริง
เทอร์มาจเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แม้ว่าการทำเทอร์มาจจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ให้ผลลัพธ์เรื่องการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังช่วยสลายไขมันสะสมบริเวณต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เทอร์มาจคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร จุดเด่นของเทอร์มาจ เทอร์มาจช่วยอะไร ใครที่เหมาะจะทำบ้าง เทอร์มาจราคาเท่าไหร่ มาหาคำตอบผ่านบทความนี้ได้เลย
เทอร์มาจคือนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยยกกระชับผิวโดยการส่งคลื่นวิทยุความถี่สูงเป็นวงกว้างลงไปใต้ผิวหนัง โดยพลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุนี้สามารถส่งลงไปลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) รวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง(Subcutaneous) ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ลึกที่สุดของโครงสร้างผิว จึงให้ผลช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวแน่นขึ้น มีความยืดหยุ่น รวมทั้งช่วยสลายไขมันสะสมส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องเทอร์มาจเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ US-FDA ระดับ Gold Standard จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยและผลลัพธ์เรื่องการกระชับผิว
โครงสร้างชั้นผิวหนังของคนเรานั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้นได้แก่
โดยหลักการทำงานของเทอร์มาจคือเครื่องเทอร์มาจจะยิงพลังงานความร้อนซึ่งเป็นคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Capacitive Monopolar Radiofrequency, CRF) ลงไปลึกถึงผิวชั้นบนไขมัน พลังงานความร้อนจะส่งผลทำให้โมเลกุลของน้ำแยกตัวออกจากเส้นใยคอลลาเจน ทำให้คอลลาเจนหดตัวในทันที ผิวจึงดูตึงกระชับขึ้น หลังทำเทอร์มาจผิวจะค่อยๆ สร้างคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้นและมีการจัดเรียงตัวใหม่ จึงได้ผลลัพธ์เป็นผิวที่กระชับและมีความเรียบเนียนขึ้นหลังทำ โดยจะเห็นผลความกระชับ เต่งตึง เรียบเนียน
เทอร์มาจกับไฮฟูต่างก็เป็นเทคโนโลยีในการช่วยยกกระชับผิว โดยการส่งพลังงานความร้อนเข้าไปใต้ผิวหนังเหมือนกัน ต่างกันตรงประเภทของพลังงานที่นำมาใช้และพื้นที่เป้าหมาย โดยที่
ไฮฟู จะใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงยิงเข้าไปในผิวหนังลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า โดยการยิงจะยิงพลังงานเป็นจุดขนาด 0.5-1 mm เรียงเป็นเส้นตามแนวผิวที่ต้องการยกกระชับ ส่งผลทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ยิงเกิดการหดตัว ผิวจึงดูกระชับขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยและผิวหนังหย่อนคล้อย ทำให้ผิวเต่งตึง ยกกระชับขึ้น ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ให้ผลลัพธ์นาน 6 เดือน – 1 ปี
ส่วนเทอร์มาจ จะเป็นการยกกระชับผิวโดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ ยิงลงไปใต้ผิวลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) รวมถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous) ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ลึกที่สุดของโครงสร้างผิว การยิงพลังงานจะยิงเป็นก้อนความร้อนขนาด 3-4 cm2 จึงครอบคลุมพื้นที่มากกว่า สร้างความร้อนได้ทั่วถึงมากกว่าแบบจุด เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ไม่กระชับ และมีการสะสมของไขมันใต้ชั้นผิวเยอะ ให้ผลลัพธ์นาน 1-1.5 ปี
การทำ Thermage FLX มีจุดเด่นดังนี้
การทำ เทอร์มาจ ด้วยเครื่อง Thermage FLX นั้นมีจุดเด่นคือ
ทั้งนี้เนื่องมาจากคุณสมบัติของเครื่อง Thermage FLX ซึ่งเป็นเครื่องเทอร์มาจรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการพัฒนาเทคโนโลยี ให้มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวดียิ่งขึ้น โดย FLX คือ
F: Faster ปล่อยพลังงานความร้อนได้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นถึง 33% และเร็วกว่ารุ่นเดิม 25% ด้วยหัวปล่อยพลังงานที่พัฒนาล่าสุด มีขนาดใหญ่ขึ้น
L: ALGORITHM สามารถตรวจวัดความต้านทานผิวได้อัตโนมัติแบบ Real-time ด้วยเทคโนโลยี AccuREPTM Technology ทำให้การยิงพลังงานในแต่ละ shot มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ มีความสม่ำเสมอ และมีความปลอดภัย
X: EXPERIENCE มีเทคโนโลยี Advanced Comfort Pulse Technology ซึ่งมีระบบ Cooling effect และพลังงานสั่น (Multi-Directional Vibration) หัวยิงจะมีการปล่อยความเย็นออกมาเป็นระยะขณะยิงพลังงาน ช่วยลดความเจ็บและช่วยปกป้องผิวด้านบนด้วยความเย็น จึงช่วยลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิว burn และระบบสั่นยังทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายผิวขณะทำอีกด้วย
แม้ว่าเครื่องThermage FLXจะได้รับการรับรองเรื่องประสิทธิภาพการยกกระชับและความปลอดภัย แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรเลือกทำกับแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญการ และมีประสบการณ์ในการใช้งานเครื่องมือ และสามารถประเมินสภาพผิวและปัญหาของคนไข้ได้อย่างแม่นยำ เลือกคลินิกที่ใช้เครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ห้องทำหัตถการสะอาดและแยกเป็นสัดส่วน มีการทำเทอร์มาจ รีวิวในเชิงบวกจากผู้ใช้บริการจริง ราคาไม่ถูกจนเกินไป และที่สำคัญที่สุดคือต้องใช้เครื่องThermage FLX ของแท้เท่านั้น
หากยังสงสัยว่าจะทำเทอร์มาจที่ไหนดี ต้องการทำ Thermage FLX เครื่องแท้ที่ได้รับการรับรอง ได้ผลลัพธ์ที่สวยตามต้องการ ด้วยการให้บริการแบบมืออาชีพ ดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการทุกเคส มีประสบการณ์ในการใช้งานเครื่อง Thermage FLX มามากกว่า 3,000,000 ช็อต ใน ปี 2023 ในราคาที่สมเหตุสมผล สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์และประเมินการรักษาฟรี ก่อนได้ที่ ที่ PONGSAK CLINIC ทุกสาขาหรือผ่านช่องทางออนไลน์ สนใจสอบถามเพิ่มเติม คลิก!!
สำหรับการทำเทอร์มาจจะให้ผลลัพธ์ยาวนาน 1-1.5 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและวิธีการดูแลผิวของแต่ละบุคคล หลังทำเทอร์มาจแนะนำทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันแสงแดดที่อาจทำ
เทอร์มาจเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้
– มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้า ลำคอ เหนียงค่อนข้างเยอะ
– มีใบหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอยลึกที่มองเห็นได้ชัด รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้าให้เรียว เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น กระชับรูขุมขน เพิ่มความเรียบเนียนของผิว
– ผู้ที่มีหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หลังมือ หย่อนคล้อย รวมทั้งมีเซลลูไลท์ ต้องการยกกระชับ ลดเซลลูไลท์
– ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากการคลอดบุตร หรือหลังลดน้ำหนัก
จำนวนช็อตในการทำเทอร์มาจจะไม่เท่ากันในแต่ละบุคคลเนื่องจากปัญหาผิวของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน โดยแพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวและปัญหาก่อนและคำนวนจำนวนช้อตที่เหมาะสม โดยทั่วไป Thermage FLX แก้ม+เหนียง จะอยู่ที่ประมาณ 450 shot, Thermage FLX ทั่วหน้า ประมาณ 900 shot
เทอร์มาจกับไฮฟูจะต่างกันที่ พลังงานความร้อนที่ใช้ โดยไฮฟู จะใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงยิงเข้าไปลึกถึงชั้น SMAS การยิงจะยิงเป็นจุดคล้ายจุดไข่ปลาขนาด 0.5-1 mm เรียงเป็นเส้นตามแนวผิวที่ต้องการยกกระชับ ส่วนเทอร์มาจจะเป็นจะเป็นการยกกระชับผิวโดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุจะยิงเป็นก้อนความร้อนขนาด 3-4 cm2 จึงครอบคลุมพื้นที่มากกว่า สร้างความร้อนได้ทั่วถึง
Thermage FLX เป็นเครื่องเทอร์มาจรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีการพัฒนาเทคโนโลยี ให้มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวดียิ่งขึ้น โดย
– สามารถปล่อยพลังงานความร้อนได้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นถึง 33% และเร็วกว่ารุ่นเดิม 25% ด้วยหัวปล่อยพลังงานที่พัฒนาล่าสุด
– สามารถตรวจวัดความต้านทานผิวได้อัตโนมัติแบบ Real-time ด้วยเทคโนโลยี AccuREPTM Technology ทำให้การยิงพลังงานในแต่ละ shot มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ มีความสม่ำเสมอ และมีความปลอดภัย