ร่วมเปลี่ยนไปกับ 10 สาวงาม Miss Grand Thailand 2016
ร่วมตอบคำถามกับสโลแกนของ พงศ์ศักดิ์คลินิก "Change" ร่วมเปลี่ยนไปกับเรา
ใครที่ว่าเรื่องสิวๆ ไม่เห็นต้องกังวล…เป็นได้ก็หายได้ หลังอ่านบทความนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่ เพราะปัญหาสิวบนใบหน้าไม่ใช่แค่สร้างความไม่มั่นใจเท่านั้น แต่ยังเป็นการบ่งบอกและแสดงสัญญาณเตือนอาการผิดปกติบางอย่างของร่างกายอีกด้วย
มาดูกันว่าแต่ละจุดสิวทั้ง 15 ตำแหน่งบนใบหน้าทำนายสุขภาพว่าอย่างไรบ้าง คุณจะได้พบวิธีการพิจารณาจุดสิว พร้อมทั้งแนวทางการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง ซึ่งเป็นศาสตร์การวิเคราะห์สภาพผิวแบบ ‘Face Mapping’ ดังนี้
คารรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น คะน้า บร็อคโคลี ผักโขม น้ำส้ม น้ำแครนเบอร์รี่ ไวน์แดง ฯลฯ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและทำใจให้สบาย รู้จักปล่อยวาง รวมทั้งค่อยๆ แก้ปัญหาด้วยสติ
ลดความเครียดและหากิจกรรมที่สร้างความผ่อนคลายทำ เช่น ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง
ลดอาหารรสจัดและไม่นอนดึกดื่นหลังเที่ยงคืน
พักผ่อนให้มาก รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหาโอกาสล้างพิษให้ร่างกายได้นำสารพิษตกค้างออกจากร่างกาย
จุดที่ 8 รอบคิ้ว – ตับทำงานหนัก
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และอาหารที่มีไขมันสูง อาทิ ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ผัดไทยกุ้งสด ข้าวผัดอเมริกัน ฯลฯ
ระมัดระวังไม่สัมผัสกับมลพิษโดยตรง และหาโอกาสสูดอากาศบริสุทธิ์หรืออยู่ในสถานที่ที่มีต้นไม้เยอะๆ เช่น สวนสาธารณะ
หมั่นดูแลสุขภาพช่องปาก หากเกิดอาการผิดปกติควรไปพบทัตแพทย์เพื่อหาทางรักษาให้หายเป็นปกติ
จุดที่ 12 มุมข้างปาก – ระดับฮอร์โมนไม่สมดุล
ทำตัวสบายๆ และผ่อนคลาย ไม่หมกมุ่นจดจ่ออยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกินไปจนเกิดความเครียด
อาจเกิดสิวบริเวณนี้ช่วงที่มีประจำเดือน ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหมั่นออกกำลังกาย
งดอาหารขยะ รับประทานผักผลไม้และอาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น
หาโอกาสพักผ่อนและท่องเที่ยวบ้าง เพื่อจะได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ
นับจากนี้หากเกิดสิวบนใบหน้า หรือเป็นสิวในจุดเดิมตำแหน่งเดิมซ้ำๆ กัน อย่าชะล่าใจ ต้องหมั่นตรวจเช็คสุขภาพและดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงและใบหน้าใสไร้รอยสิวกันนะคะ