อยากมีหน้าท้องแบนราบ เรียบเนียน ไร้ไขมันส่วนเกิน แต่ไม่อยากผ่าตัด? การ สลายไขมันหน้าท้อง ด้วยความเย็น (CoolSculpting) อาจเป็นคำตอบสำหรับคุณ! เรียกได้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยกำจัดไขมันหน้าท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งหลักการทำงานของ สลายไขมันหน้าท้องด้วยความเย็น หรือ CoolSculpting นั้นใช้ความเย็นจัดประมาณ -11 ถึง -13°C แช่แข็งเซลล์ไขมันหน้าท้องเฉพาะจุด ทำให้เซลล์ไขมันตายและถูกกำจัดออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ จึงได้กลายมาเป็นวิธีการลดไขมันหน้าท้องที่ได้รับความนิยมมากในปี 2024 นี้
ไขมันหน้าท้อง คืออะไร ?
ไขมันหน้าท้อง คือ ไขมันสะสมบริเวณช่องท้อง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous fat)
อยู่ใต้ผิวหนัง สัมผัสได้จากภายนอก เป็นไขมันที่เราเห็นและบีบได้
ไขมันในช่องท้อง (Visceral fat)
อยู่ลึกในช่องท้อง แทรกอยู่ระหว่างอวัยวะภายใน มองไม่เห็นจากภายนอก แต่เป็นไขมันที่อันตรายต่อสุขภาพมากกว่า
การมีไขมันหน้าท้องมากเกินไปอาจส่งผลที่ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดไขมันหน้าท้องซึ่งมีอยู่หลายวิธี แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์แบบเร่งด่วนแต่ไม่อยากผ่าตัด คำตอบที่ดีที่สุดนั่นก็คือวิธีการสลายไขมันหน้าท้องด้วยความเย็น หรือ CoolSculpting นั่นเองสามารถศึกษาข้อมูล ลดน้ำหนัก Vs. ลดไขมัน แตกต่างกันอย่างไร?
ความเย็นสามารถสลายไขมันในร่างกายได้อย่างไร ?
การสลายไขมันด้วยความเย็น หรือที่รู้จักกันในชื่อ CoolSculpting คือ เทคนิคที่ไม่ต้องผ่าตัดซึ่งใช้ความเย็นในการทำลายเซลล์ไขมันเฉพาะบริเวณของร่างกาย เทคนิคนี้เรียกว่า Cryolipolysis และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ว่ามีามอดภัยและมีประสิทธิภาพในการลดไขมันสะสมเฉพาะจุด โดยความเย็นสามารถสลายไขมันในร่างกายได้ตามคำอธิบาย ดังนี้
1. ในขั้นแรกของการรักษา อุปกรณ์ CoolSculpting จะถูกวางบนผิวหนังบริเวณที่ต้องการลดไขมัน หัวจับของอุปกรณ์จะดูดผิวหนังและชั้นไขมันขึ้นมาภายในอุปกรณ์ ซึ่งจะช่วยให้ความเย็นสามารถเข้าถึงเซลล์ไขมันได้โดยตรง จากนั้นระบบทำความเย็นจะเริ่มทำงานโดยปรับอุณหภูมิให้ต่ำถึงระดับที่เหมาะสม (ประมาณ -11 ถึง -5 องศาเซลเซียส) เพื่อทำลายเซลล์ไขมันหน้าท้อง
2. เซลล์ไขมันมีความไวต่อความเย็นมากกว่าเนื้อเยื่ออื่น ๆ ในร่างกาย เมื่อเซลล์ไขมันถูกทำให้เย็นลง พวกมันจะเข้าสู่กระบวนการที่เรียกว่า Apoptosis หรือการตายของเซลล์ตามธรรมชาติ กระบวนการนี้ทำให้โครงสร้างของเซลล์ไขมันแตกออกและถูกทำลาย แต่เนื้อเยื่ออื่น ๆ เช่น ผิวหนัง กล้ามเนื้อ และเส้นประสาท จะไม่ได้รับผลกระทบจากความเย็นในระดับเดียวกัน
3. หลังจากที่เซลล์ไขมันถูกทำลาย ร่างกายจะเริ่มกระบวนการกำจัดเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายผ่านระบบภูมิคุ้มกัน เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะถูกขนส่งไปยังระบบน้ำเหลืองและกำจัดออกจากร่างกายผ่านกระบวนการเมแทบอลิซึมตามธรรมชาติ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ป่วยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
จุดเด่นของการใช้ความเย็นในการสลายไขมันหน้าท้อง
– มีผลโดยตรงต่อเซลล์ไขมัน ความเย็นที่ใช้ในการทำ CoolSculpting มีผลโดยตรงต่อเซลล์ไขมัน ทำให้เนื้อเยื่ออื่น ๆ ไม่ได้รับความเสียหาย ซึ่งต่างจากการผ่าตัดหรือการใช้สารเคมีในการสลายไขมันที่อาจมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออื่น ๆ
– ไม่ต้องผ่าตัด CoolSculpting เป็นกระบวนการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีการใช้เข็ม หรือการตัดเจาะ ทำให้ลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อหรือการบาดเจ็บ นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังการรักษา โดยไม่ต้องการเวลาพักฟื้น
– มีผลลัพธ์ที่ยั่งยืน เซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะถูกกำจัดออกจากร่างกายอย่างถาวร และไม่สามารถกลับมาได้อีก อย่างไรก็ตาม ควรรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่และรักษาสุขภาพทั่วไปเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้งยืน
สลายไขมันหน้าท้อง ด้วยความเย็น เห็นผลไหม ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
ผลลัพธ์ของการสลายไขมันหน้าท้อง หรือการทำ CoolSculpting นั้นถาวร หมายความว่าเซลล์ไขมันที่ถูกกำจัดด้วยความเย็นจะตายไปถาวรไม่กลับมาเกิดใหม่ ยกเว้นกรณีที่ไม่ได้ควบคุมอาหาร หรือออกกำลังกายไม่เพียงพอ ไขมันอาจกลับมาสะสมใหม่ในบริเวณอื่น ๆ ของร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ร่างกายของเรายังสามารถสร้างเซลล์ไขมันใหม่ได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็ก วัยรุ่น และช่วงวัยเจริญพันธุ์ ดังนั้น แม้จะทำ CoolSculpting แล้ว แต่หากไม่ควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายไม่เพียงพอ ไขมันใหม่ก็อาจกลับมาเกิดขึ้นใหม่ได้นั่นเอง
จะเห็นได้ว่าวิธีการสลายไขมันหน้าท้องด้วยความเย็น เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดไขมันส่วนเกิน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันหน้าท้องโดยไม่ต้องผ่าตัด และเป็นวิธีลดหน้าท้องผู้ชายที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Coolsculpting รีวิว ต่าง ๆ อย่างละเอียด และเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานก่อนตัดสินใจทำ และควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อประเมินความเหมาะสม แจ้งประวัติโรคประจำตัว ยาที่ทาน และอาหารเสริมที่ทานให้ทางแพทย์ทราบก่อนเข้ารับการรักษา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ให้แพทย์ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล คลิก !
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสลายไขมันหน้าท้องด้วยความเย็น
สลายไขมันด้วยความเย็น ข้อเสียมีอะไรบ้าง?
1. ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมมาก เพราะ CoolSculpting เหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะส่วน ไม่ใช่ผู้ที่มีไขมันสะสมมากทั่วร่าง เพราะจะเห็นผลลัพธ์ไม่ชัดเจน และอาจต้องทำหลายครั้ง
2. มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังการทำ CoolSculpting ได้แก่ รู้สึกชา ตึง ร้าว บริเวณที่ทำ ผิวบวมแดง ช้ำ ซึ่งอาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ในบางรายอาจมีอาการชาอยู่บ้างนานถึง 3-4 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังพบผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น อาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว รู้สึกหนาว เป็นต้น
สลายไขมันหน้าท้อง ตอบโจทย์สำหรับใครบ้าง ?
ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เกินมาตรฐาน, ผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะส่วน เช่น ผู้ที่มีหน้าท้องหลังคลอดบุตร
และผู้ที่เคยลดน้ำหนักด้วยการคุมอาหารและออกกำลังกายมาแล้ว แต่สัดส่วนไม่ลดลงตามเป้าหมาย
หลังสลายไขมันด้วยความเย็น ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายขับไขมันที่ถูกทำลายออกได้เร็วขึ้น
ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และโปรตีน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยให้ร่างกายกระชับและเผาผลาญไขมัน
หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดกุม เพื่อช่วยให้ผิวกระชับ