3 เหตุผลที่เทอร์มาจชนะครีมบำรุงผิว THERMAGE FLX

22/05/2020

Table of Contents

1 - ราคาถูกกว่า
2 - เข้าไปดูแลผิวชั้นลึกกว่า
3 - ให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่า
เจาะลึกผิวหนังของคนเราแบ่งออกเป็น 3 ชั้นด้วยกัน
ชั้นบนสุด เรียกว่า ‘หนังกำพร้า’ (Epidermis)
ชั้นกลางอยู่ถัดจากชั้นหนังกำพร้า เรียกว่า ‘หนังแท้’ (Dermis)
ชั้นล่างสุดอยู่ลึกสุด เป็นชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Tissue) หรือ ‘ชั้นไขมัน’ (Subcutaneous)
หลักการทำงานของ Thermage CPT/FLX
้ที่เหมาะสมกับารทำ Thermage CPT/FLX

หากพูดถึงการดูแลผิวพรรณเชื่อว่าคุณต้องนึกถึงครีมบำรุงผิวอย่างสกินแคร์เป็นตัวแรกๆ แน่นอน ซึ่งในท้องตลาดมีหลากหลายทั้งรูปแบบเจล ครีม มอยส์เจอไรเซอร์ และยังแยกย่อยสำหรับบำรุงผิวหน้า รอบดวงตา หรือลำคอ โดยต้องเลือกแบบที่เหมาะสมกับผิวของแต่ละคนด้วย การใช้สกินแคร์ก็เพื่อดูแลผิวให้สุขภาพดี สดใส เนียนนุ่มชุ่มชื้น เพิ่มคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และแลดูอ่อนกว่าวัย ทว่าผลลัพธ์เหล่านี้นวัตกรรมระดับโลกอย่าง ‘เทอร์มาจ’ (Thermage) สามารถเอาชนะสกินแคร์ในการดูแลผิวได้แบบขาดลอยถึง 3 เหตุผลหลักด้วยกัน ดังนี้ค่ะ

Thermage เทคโนโลยีที่เข้ากอบกู้คอลลาเจนที่เครื่องมือใดก็ทำแทนไม่ได้

“ถ้านำราคา Thermage ที่ทำเพียงปีละครั้งไปหาร 12 เดือน

ราคา Thermage อาจจะถูกกว่าครีมบำรุงแสนแพงของใครหลายคน

ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่ามาก และทำงานต่อเนื่องยาวนาน ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ คงทนยาวนานนับปี”

1 – ราคาถูกกว่า

สกินแคร์มีหลากหลายราคาด้วยกัน ยิ่งคุณภาพดี ส่วนประกอบหายาก แบรนด์ดังนำเข้าจากต่างประเทศราคาก็ยิ่งสูงเหยียบหลัก 10,000.- หรือหลายหมื่นบาทก็มี คุณภาพอาจจะดีจริง แต่คุณเคยคิดหรือไม่ว่าแต่ละปีคุณจ่ายเงินค่าสกินแคร์รวมทุกตัวไปเท่าไหร่ ซึ่งอาจจะนับไม่ไหวก็เป็นได้ เพราะสกินแคร์ที่ใช้มีหลายตัวเหลือเกิน หากคุณรักษาด้วยเทอร์มาจที่ดูเหมือนจะราคาสูงกว่า แต่จ่ายเพียงปีละครั้ง ลองบวกลบคุณหารดูสิค่ะ ว่า…ทำเทอร์มาจหรือสกินแคร์ถูกกว่ากัน

2 – เข้าไปดูแลผิวชั้นลึกกว่า

ผิวหนังของคนเรามีหลายชั้นด้วยกัน ซึ่งการดูแลผิวด้วยสกินแคร์จะดูแลเพียงผิวชั้นนอก (Epidermis) ให้สุขภาพดีเท่านั้น ต่างจากการทำเทอร์มาจที่พลังงานในการรักษาจะเข้าดูแลผิวถึง 3 ชั้นหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่

1.ผิวชั้นนอก (Epidermis) พร้อมลงลึกสู่ 2.ผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) และ 3.ผิวหนังชั้นไขมน (Subcutis) โดยกระตุ้นการสร้างและฟื้นฟูคอลลาเจน ผิวแน่นกระชับ เก็บแก้ม เก็บเนียง ทำให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

3 – ให้ผลลัพธ์ยาวนานกว่า

อุปสรรคอย่างหนึ่งของการใช้สกินแคร์ไม่ว่าจะตัวแพงแค่ไหน หากต้องการผลลัพธ์ที่เต็มประสิทธิภาพ คุณต้องใช้เป็นประจำสม่ำเสมอ ต้องแบ่งสูตรกลางวันกลางคืน ดูแลผิวหน้า รอบดวงตา และลำคอก็คนละตัว แถมยังต้องทาตัวบางก่อนตัวหน้าด้วย และต้องใช้ต่อเนื่องยาวนานหลายเดือนหรือกระทั่ง 1 ปี จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่เทอร์มาจหลังทำทันทีจะเห็นผลลัพธ์ประมาณ 15-20% และผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ ใน 3-6 เดือน นอกจากนี้ยังดูแลผิวตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกๆ วัน โดยผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้นาน 1-1.5 ปีเลยทีเดียว

เจาะลึกผิวหนังของคนเราแบ่งออกเป็น 3 ชั้นด้วยกัน

ชั้นบนสุด เรียกว่า ‘หนังกำพร้า’ (Epidermis)

ชั้นหนังกำพร้าเป็นผิวชั้นนอกสุดที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ช่วยปกป้องชั้นหนังแท้จากรังสียูวี ซึ่งชั้นล่างสุดของหนังกำพร้าจะมีเซลล์ที่แบ่งตัวได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์เก่าที่ตายลง สำหรับเด็กกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นเร็ว ทำให้เด็กมีผิวหน้าใสเรียบเนียน แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการดังกล่าวจะเกิดขึ้นช้าลง เมื่อมีปัจจัยต่างๆ มาเสริม อย่างเช่น แสงแดด มลภาวะ สารเคมี การสูบบุรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ จะส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทำให้ผิวหยาบกร้าน มีรอยด่างดำ กระ ฝ้า ริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวหน้าหมองคล้ำ ฯลฯ

ชั้นกลางอยู่ถัดจากชั้นหนังกำพร้า เรียกว่า ‘หนังแท้’ (Dermis)

ชั้นหนังแท้ช่วยลดแรงกระแทกและมีปลายประสาทรับความรู้สึกมากมาย มีเส้นเลือดฝอย คอลลาเจน และอิลาสตินทำให้ผิวยืดหยุ่นได้

ชั้นล่างสุดอยู่ลึกสุด เป็นชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Tissue) หรือ ‘ชั้นไขมัน’ (Subcutaneous)

ชั้นไขมันมีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่ออ่อนด้านล่าง รวมถึงเส้นเลือด เส้นประสาท อันตรายจากของมีคม และอุณหภูมิร้อน-เย็น ปกติการรักษาฝ้า กระ รอยดำต่างๆ เป็นการรักษาที่เน้นผิวชั้นหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้เท่านั้น แม้แต่เลเซอร์ที่ยิงลงไปที่ผิวก็ลงได้ไม่ลึกมาก นอกจากนี้ เทคนิคการคงความงามอื่นๆ ก็ยังไม่ครอบคลุมทุกชั้นผิวและมีประสิทธิภาพได้เทียบเท่ากับเทอร์มา

หลักการทำงานของ Thermage CPT/FLX

การทำงานของเครื่อง ‘Thermage CPT/FLX’ คือ การนำเทคโนโลยีความถี่คลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ส่งพลังงานลึกสู่ใต้ชั้นผิวหนัง รักษาผิวได้ในชั้นลึก ทำให้เกิดมวลความร้อนขนาดใหญ่ครอบคลุมผิวหนังทั้งชั้น ‘หนังแท้’ (Dermis) และพลังงานความร้อนยังถูกส่งลึกลงไปตามเนื้อเยื่อที่แทรกตัวอยู่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนังอีกด้วย ส่งผลให้คอลลาเจนเก่าที่เสื่อมสภาพเกิดการหดกระชับตัว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ในชั้นลึกของผิว ซึ่งสำคัญมากในการทำให้ผิวหดกระชับ ผลลัพธ์จึงช่วยให้ผิวพรรณเรียบเนียนกระชับเข้ารูปขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติจากภายในสู่ภายนอก โดยไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว คุณผู้อ่านเห็นแล้วใช่มั้ยละคะว่า การทำเทอร์มาจให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมจริงๆ