‘ความแก่’…เป็นคำแสลงหูที่ไม่มีใครอยากเอ่ยถึง เพราะไม่อยากแก่ ไม่อยากผิวเหี่ยว ไม่อยากดูมีอายุ บางคนถึงกับทาครีมบำรุงและเซรั่มมากมาย สกินแคร์ตัวไหนใครว่าดีก็หามาลองใช้หมด และถนอมผิวสุดพลัง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ตรงใจ คุ้มค่าครีมบำรุงที่จ่ายไป ผิวไม่มีริ้วรอยกวนใจ แม้อายุจะล่วงเข้าวัยหลัก 4
แต่ไม่วายก็ยังดูแก่!!!
ที่เรายังดูแก่แม้ผิวไม่มีริ้วรอย นั่นเพราะเมื่อเวลาผ่านไปและอายุมากขึ้น ‘ความแก่’ เกิดจาก ‘น้ำหนักใบหน้าที่เปลี่ยน’
น้ำหนักใบหน้าเปลี่ยนคืออะไร?
คุณหมอด้านผิวหนังให้คำอธิบายไว้ว่า…’น้ำหนักใบหน้า’ คือ องค์ประกอบทั้งหมดของใบหน้า ตั้งแต่โครงกระดูกใบหน้า ชั้นกล้ามเนื้อ ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ผิวหนังชั้นต่างๆ และคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวที่ทำให้ยังแลดูเด็ก
ตอนยังหนุ่มสาวน้ำหนักใบหน้าและองค์ประกอบใบหน้าทั้งหมดจะอยู่ในระนาบเดียวกัน ทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่มีความหย่อนคล้อย แต่พออายุมากขึ้นองค์ประกอบของใบหน้าแต่ละส่วนจะหย่อนคล้อยตั้งแต่โครงของใบหน้า ไล่ออกมาเรื่อยๆ สู่ด้านนอก ถ้าเราเป็นคนที่ดูแลผิวด้านนอกดี ริ้วรอยด้านนอกจะเกิดน้อยแม้อายุเยอะ แต่ครีมบำรุงผิวไม่สามารถช่วยดึงรั้งโครงหน้าด้านในได้ นั่นทำให้เรายังดูแก่แม้จะไม่มีริ้วรอย
โดยปกติผิวคนเราจะงดงามและสมบูรณ์แบบทุกองค์ประกอบที่สุดในช่วงอายุ 20-25 ปี
หลังจาก 25 ปีเป็นต้นไป กระดูก ซึ่งเป็นโครงสร้างของใบหน้าจะค่อยๆ หดตัวลง เพราะแคลเซียมไม่สะสมในกระดูกแล้ว มีแต่ดึงแคลเซียมเก่าที่สะสมตั้งแต่ตอนเด็กออกมาใช้ พอกระดูกทรุด ผิวก็ได้รับผลกระทบเหมือนโครงบ้านมีปัญหาทรุดตัว ผนังบ้านอย่างผิวก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักใบหน้าเราจะไม่ค่อยรู้สึก เพราะค่อยๆ เปลี่ยน ผิวที่คุณบำรุงมาดีอาจไม่มีริ้วรอย แต่ผิวจะนูนและห้อยออกมาเพราะโครงกระดูกเปลี่ยนจากด้านใน ส่งผลให้ผิวด้านนอกบานออก และย้วยลง จากที่ผิวเคยเต่งตึงนิ่มเด้งเป็นหย่อนๆ ย้วยๆ ไม่ได้อยู่จุดเดิมอีกต่อไป
นั่นคือน้ำหนักใบหน้าที่เปลี่ยน ถ้าสังเกตชัดๆ ในคนที่บำรุงผิวดีไม่มีริ้วรอยยับย่น แต่จะมีร่องแก้มให้เห็น เพราะน้ำหนักใบหน้าทิ้งตัวลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก
เวลาเรามองตัวเอง เราจะเห็นตัวเองผ่านทางกระจกเป็นภาพแบบ 2 มิติ แตกต่างจากที่คนอื่นมองเราเป็นแบบ 3 มิติ มีมิติกว้าง ยาว และหนา โดยผิวที่ย้อยหรือตกลงมานั่นคือ การแสดงออกของความแก่ ซึ่งตัวเราเองมองไม่เห็น แต่คนอื่นมองเห็น
ทางแก้ในปัจจุบันก็มีหลายทางด้วยกัน
ปัจจุบันมีทางแก้ เพื่อย้ายน้ำหนักใบหน้าและยกกระชับผิวตั้งแต่โครงสร้างภายในให้เลือกหลายอย่างด้วยกัน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวของแต่ละคน ได้แก่
1.คลื่นความถี่วิทยุ (Thermage FLX) ช่วยให้ผิวหด แน่นกระชับ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีแก้มและไขมันที่หน้า มีปัญหาผิวไม่กระชับ และมีเหนียง
2.คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (Ultherapy) ช่วยให้เกิดการยกผิว และกรอบหน้าชัดขึ้น
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีเหนียง กรอบหน้าไม่ชัด แต่ไม่มีแก้มหรือมีน้อย
3.การใช้ตัวยาและสารต่างๆ (เช่น สารเติมเต็ม) ช่วยแก้ปัญหาผิวเฉพาะจุด
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาเฉพาะจุดแบบเจาะจง เช่น เติมเต็มผิวให้เอิบอิ่ม
ซึ่งการคงความงามแต่ละวิธีนั้นสามารถแก้ปัญหาในแต่ละจุดที่แตกต่างกัน รวมถึงลงลึกถึงชั้นผิวที่แตกต่างกันด้วย
โดยการเลือกรักษาแต่ละวิธีขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลว่ามีปัญหาเรื่องอะไร ซึ่งทำการพิจารณาและประเมินด้วยแพทย์
สำหรับผู้ที่มีปัญหา
เริ่มหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด มีเหนียง แต่เป็นคนไม่มีแก้มหรือมีน้อย
มีคำถามเรื่องผิวพรรณหรือต้องการให้ประเมินใบหน้า
ปรึกษาได้ฟรีทาง Line : @pongsakclinic
โดยพิมพ์คำว่า “กังวลเรื่อง…”
เช่น “กังวลหย่อนคล้อย เริ่มมีเหนียงค่ะ”
ตอบโดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรง
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร.081-720-2900
สนใจ Thermage FLX
คลิกที่ภาพ!!!
สนใจ New! Ultherapy
คลิกที่ภาพ!!!
สนใจ New! Ultherapy + Thermage ยกกระชับผิวหน้า
คลิกที่ภาพ!!!