พออายุมากขึ้น ผิวพรรณที่เคยสดใสเต่งตึงเริ่มมีปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อยมาเยือน เพราะคอลลาเจนในผิวทยอยเสื่อมสลายและหายไป เชื่อว่าทุกคนต้องเป็นกังวลและหาวิธีแก้ปัญหาผิวที่เกิดขึ้น คงไม่มีใครอยากปล่อยตัวเองให้โดนทักว่า ‘ดูแก่ขึ้น’ โดยหนึ่งในหนทางการแก้ปัญหาผิวมีเทคโนโลยีโดดเด่นแห่งยุคสมัยที่สามารถมอบผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจในการคงความอ่อนเยาว์ นั่นคือ ‘Thermage’ การยกกระชับผิว ปรับรูปหน้า ลดเหนียง ลดแก้ม และลดริ้วรอย พร้อมกระตุ้นคอลลาเจนในผิวด้วยคลื่นความถี่ จากประเทศสหรัฐอเมริกา
แล้วคุณสงสัยไหมว่า…ใครบ้างล่ะ? ที่เหมาะจะทำ Thermage และถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องทำ Thermage หรือต้องมีปัญหาผิวหน้าแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับการแก้ปัญหาผิวด้วย Thermage แล้วเห็นผล บทความนี้มีคำตอบค่ะ
มีแก้มเยอะ มีเหนียง รูปหน้าอวบอูมไม่มีมิติ
ปัญหาของรูปหน้าแบบที่ 1 สังเกตได้ชัด คือ มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้าเยอะ ทำให้รูปหน้าดูอวบอูม ใบหน้าใหญ่ หรือเวลาถ่ายรูปแล้วมีเหนียงย้อยเกินออกมา และกรอบหน้าไม่ชัด การทำ Thermage จะเข้าไปช่วยลดไขมันและกระชับผิวให้ได้รูปมีมิติขึ้น
ผิวหย่อนคล้อย ผิวเหี่ยวดูมีอายุ
ปัญหาใหญ่ของรูปหน้าแบบที่ 2 คือ ริ้วรอยกับความหย่อนคล้อย ที่เกิดจากวัยเพิ่มขึ้นและการพบเจอมลภาวะที่ทำร้ายผิว จนพรากคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ไป คงเหลือแต่ความแก่และผิวหย่อนคล้อย เมื่อทำ Thermage จะช่วยกอบกู้คอลลาเจนที่ถูกทำลายให้ฟื้นคืนมาใหม่ รวมทั้งทำให้ผิวที่หย่อนคล้อยมีริ้วรอยกลับมาตึงกระชับอีกครั้ง
หน้ามีริ้วรอยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีร่องลึกเยอะ
ปัญหาผิวแบบที่ 3 คือ มีร่องลึกและรอบพับที่ผิวเยอะ ซึ่งเกิดจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเยอะ อายุเพิ่มขึ้น และคอลลาเจนในผิวลดลงอย่างมาก ทำให้เกิดร่องลึกและดูมีอายุ การทำ Thermage จะช่วยกระชับผิวให้ปัญหาร่องลึกตื้นขึ้นเรื่อยๆ จนผิวเรียบเนียน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวให้กลับมาใหม่ทำให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
อยู่ระหว่าง 35-60 ปี ซึ่งอายุ 30 ปี เป็นช่วงที่มีริ้วรอยแห่งวัยปรากฏให้เห็น อีกทั้งคอลลาเจนเริ่มเสื่อมและร่างกายไม่สร้างขึ้นใหม่ ส่วนอายุ 60 ปี เป็นช่วงที่ผิวมีริ้วรอย ร่องลึก และความแก่ชราให้เห็นอย่างชัดเจน
การทำ Thermage จะช่วยให้ผิวพรรณเนียนเรียบ ริ้วรอยและอายุผิวลดลง อีกทั้งใบหน้าได้รูปมีมิติขึ้น แต่หากอายุเกินจากนี้จะต้องรักษาด้วยวิธีการอื่น เช่น การผ่าตัด ฯลฯ
แต่จริงๆ แล้วหากต้องการคงความงามให้อยู่ได้ยาวนานที่สุด การเริ่มต้นดูแลตัวเองและผิวตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่ออายุยังน้อยยิ่งช่วยยืดอายุความอ่อนเยาว์ได้นานขึ้น เช่นเดียวกันการเก็บออมเงินไว้ในธนาคารยิ่งออมเร็ว คุณก็ยิ่งมีเงินเก็บมีความมั่นคงในชีวิตและอิสรภาพทางการเงินเร็ว
ดังนั้น อายุประมาณ 25 ปี ก็สามารถทำ Thermage ได้ เนื่องจากวัยนี้ผิวเริ่มบางลงและส่งสัญญาณความเสื่อมสภาพ และความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวีลดลงเรื่อยๆ รวมทั้งคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวลดลงประมาณปีละ 1% ซึ่งการทำ Thermage จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ ยิ่งทำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุก 1-2 ปี ผิวจะอ่อนเยาว์กว่าอายุนานนับ 10 ปีทีเดียว
นอกเหนือจากวัยแล้ว ผู้ที่เหมาะสมกับการทำ Thermage อย่างยิ่งคือ คุณแม่ตั้งครรภ์หลังคลอดบุตร ผู้ที่ลดน้ำหนักและรูปร่างจนคงที่แล้ว และคนไข้หลังผ่าตัดที่ต้องการกระชับผิว โดย Thermage ทำได้หลายบริเวณ ไม่เพียงใบหน้า แต่ยังมีบริเวณลำคอ ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง และก้นอีกด้วย
.png)
ปรึกษาปัญหาผิวได้ฟรี!!! ทั้งหน้าสาขาและช่องทางออนไลน์
หมดยุคสมัยที่ผู้หญิงจะมีรูปร่างผอมบาง ไร้กล้ามเนื้อและดูอ่อนปวกเปียกแล้ว สาวยุคใหม่ต้องมีสุขภาพดีและมีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์กระชับ โดยเฉพาะซิกแพคผู้หญิงที่เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกว่าดูเซ็กซี่และส่งเสริมความมีเสน่ห์ให้กับเรือนร่างของคุณ
เชื่อว่าหน้าเหี่ยวก่อนวัย เป็นปัญหาที่สร้างความหนักใจให้ใครหลายๆคนไม่น้อย อาจโดนทักว่าแก่ ทั้งๆ ที่อายุยังน้อย แม้จะพยายามทาครีมหน้าย่นบำรุงผิวมากเท่าไหร่ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามต้องการ ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพ ทำให้สูญเสียความมั่นใจ ขาดความสดใส แต่งหน้าไม่สวย บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักว่าหน้าเหี่ยวคืออะไร เกิดจากสาเหตุใด และมีวิธีป้องกันรักษาอย่างไรบ้าง หน้าเหี่ยว คืออะไร หน้าเหี่ยวคือใบหน้าที่ผิวเริ่มมีความหย่อนคล้อย ขาดความชุ่มชื้น ไม่เต่งตึง ไม่เรียบเนียน ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น มีริ้วรอยบนตำแหน่งต่างๆ ของใบหน้า เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก มีตีนกา มีร่องแก้มลึกและห้อย อาจพบฝ้า กระ จุดด่างดำ ใบหน้ามีความหมองคล้ำ หน้าเหี่ยวเกิดจากอะไร ปัญหาหน้าเหี่ยวเกิดขึ้นมาได้จากหลายสาเหตุดังนี้ 13 วิธีแก้หน้าเหี่ยวย่น ปรับผิวให้อ่อนวัย เมื่อเกิดหน้าเหี่ยวก่อนวัย ไม่รู้ว่าหน้ามีริ้วรอย ทำไงดี ไม่ต้องเป็นกังวลไป เนื่องจากในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์มากมาย ที่ช่วยแก้หน้าเหี่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผล โดยวิธีแก้หน้าย่นมีดังต่อไปนี้ แก้ปัญหาด้วยกลุ่มเครื่องมือมาตรฐาน Gold Standard นวัตกรรม Ulthera Ulthera คือเทคโนโลยีช่วยยกกระชับผิวโดยการส่งคลื่นอัลตร้าซาวน์ ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่สูง ที่มีความร้อนประมาณ 60-70°C ยิงผ่านเข้าไปได้ลึกถึงชั้น SMAS […]
การยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และสองเทคนิคที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) และ Ulthera (Ultherapy) หลายคนอาจสงสัยว่าเทคนิคทั้งสองนี้แตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนเหมาะกับใคร วันนี้เรามาเปรียบเทียบและแนะนำให้เข้าใจกันง่าย ๆ กัน HIFU vs Ulthera ต่างกันอย่างไร เลือกทำแบบไหนให้เหมาะกับตนเอง ทั้ง HIFU และ Ulthera ต่างก็เป็นเทคโนโลยีเพื่อการยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีหลักการทำงานคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในรายละเอียด ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพและความเหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล และนี่คือรายละเอียดว่า Hifu vs Ulthera ต่างกันอย่างไร HIFU คืออะไร? HIFU ย่อมาจาก High-Intensity Focused Ultrasound ไฮฟู่ คือ เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นเสียงที่มีความเข้มข้นสูงไปยังชั้นผิวหนังลึกๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูกระชับขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งข้อดีของการไฮฟู่นั้น ได้แก่ Ulthera คืออะไร? Ulthera หรือ Ultherapy เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการยกกระชับผิว โดยใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง […]
