พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานถึง 70 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ครองราชย์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนับหมื่นนับพันโครงการ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ปวงชนชาวไทย โดยทั้ง 9 ภาพต่อไปนี้คือ ภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ในดวงใจและในความทรงจำของชาวไทยทั้งประเทศที่จะตราตรึงไปอีกนานแสนนาน
เสวยราชย์
เมื่อ 67 ปีที่แล้ว ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามแบบอย่างโบราณราชประเพณีขึ้น เฉลิมพระปรมาภิไธยตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า ‘พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร’ พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
ทรงพระผนวช
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จฯ ออกผนวชเป็นเวลา 15 วัน ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2499 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงได้รับฉายาว่า ‘ภูมิพโลภิกขุ’ ระหว่างที่ทรงดำรงสมณเพศ พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงปฏิบัติพระราชกิจ เช่นเดียวกับพระภิกษุทั้งหลายอย่างเคร่งครัด
พระเสโทหยาดหยด
พระบรมฉายาลักษณ์ ขณะมีหยดพระเสโทอยู่ที่ปลายพระนาสิก เป็นรูปที่สะท้อนถึงการทรงงานหนักของพระองค์ท่าน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวไทยทั้งผองมีแรงใจทำงานในหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มกำลัง
ทรงฟื้นฟูไร่ฝิ่น
ย้อนกลับไป เมื่อปี พ.ศ.2507 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จประพาสดอยสูงแถบภาคเหนือ พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นความเป็นอยู่ที่ยากไร้ของชาวเขา ป่าต้นน้ำลำธารถูกทำลาย เพื่อปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย พระองค์จึงมีพระราชดำริว่า “จะให้ชาวบ้านเลิกปลูกฝิ่น” อันเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการหลวง ในปี พ.ศ.2512 ที่ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาดีขึ้น
ทรงพัฒนาชนบททั่วไทย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงใช้เวลาตลอดรัชสมัยเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นต่างๆ ทุกภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะในชนบททุรกันดาร เพื่อทรงเยี่ยมเยียนความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากนี้พระองค์ทรงศึกษาค้นคว้าข้อมูลต่างๆ ด้วยพระองค์เอง ด้วยแผนที่หรือเอกสารต่างๆ ทำให้ทรงรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หลังจากนั้นพระองค์ก็ทรงคิดค้นแนวทางพระราชดำริ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ในแต่ละพื้นที่
ทรงรับดอกบัว
ภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงรับดอกบัวจากแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ หญิงชราที่เฝ้ารับเสด็จที่จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรภาคอีสานครั้งแรก แม่เฒ่าไปรอรับเสด็จพร้อมดอกบัวสายสีชมพูจำนวนสามดอก ตั้งแต่เช้าถึงบ่ายแสงแดดแผดเผาจนดอกบัวสายในมือเหี่ยวโรย เมื่อในหลวงเสด็จมาถึง แม่เฒ่าได้ยกดอกบัวสายโรยราสามดอกขึ้นเหนือศีรษะแสดงความจงรักภักดีอย่างสุดซึ้ง ทรงโน้มพระองค์ลงมาจนพระพักตร์เกือบชิดกับศีรษะของแม่เฒ่า ทรงแย้มพระสรวลอย่างอ่อนโยน อันเป็นภาพที่คุ้นตาและประทับใจชาวไทยเป็นที่สุด
เสด็จเยือนต่างประเทศ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช เสด็จประพาสต่างประเทศทั้งแถบอเมริกาและยุโรป เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและเผยแพร่วัฒนธรรมให้ชาวโลกได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ พระบรมฉายาลักษณ์นี้ ขณะประทับบนรถพระที่นั่งในขบวนพาเหรดรอบนิวยอร์ค ระหว่างเสด็จประพาสสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1960 ที่ชาวไทยปลื้มปิติในความสง่างามของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง
พระมหากษัตริย์ยอดกตัญญู
หนึ่งในคุณธรรมสำคัญที่ทรงยึดถือและปฏิบัติเสมอมาคือ ‘ความกตัญญู’ โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงปฏิบัติต่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีด้วยหัวใจกตัญญูยิ่ง ก่อนสมเด็จย่าจะสวรรคตประมาณหนึ่งปีเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ จากพระตำหนักจิตรลดาฯ ไปวังสระปทุมตอนเย็นทุกวัน เพื่อไปรับประทานข้าวกับแม่สัปดาห์ละ 5 วัน ไปคุยกับแม่ ไปทำให้แม่ชุ่มชื่นหัวใจ โดยทุกครั้งที่ในหลวงเสด็จฯ ไปหาสมเด็จย่า พระองค์จะทรงเข้าไปกราบที่ตัก แล้วสมเด็จย่าก็จะทรงดึงตัวในหลวงเข้ามากอดและหอมแก้มเสมอ
เสด็จออกสีหบัญชร
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2549 เป็นอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่ปวงชนชาวไทยทุกคนมิอาจลืมเลือน กับภาพประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญคือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต โอกาสนี้พสกนิกรที่มาเฝ้าฯ เต็มพระลานพระราชวังดุสิตเรื่อยไปจนตลอดแนวถนนราชดำเนินนอก ต่างแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ประดับตราสัญลักษณ์งานฉลองสิราชสมบัติครบ 60 ปี