เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นสิ่งหนึ่งที่แทบทุกคนมีความกังวลเหมือนกันก็คือ เรื่องความแก่และริ้วรอยใช่หรือไม่? หากคำตอบของคุณคือ ใช่! มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าริ้วรอยส่วนใดของใบหน้าที่เพิ่มอายุและความแก่ให้คุณบ้าง รวมถึงการรักษาเพื่อคงความอ่อนเยาว์ให้อยู่กับคุณไปได้ยาวนานที่สุดกับบทความ 5 อันดับที่สุดของริ้วรอยที่ทำให้คุณดูแก่ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า ถ้าคุณอ่านแล้วมีครบทั้ง 5 อันดับที่สุดของริ้วรอยจะทำให้คุณดูแก่ขึ้น 20 ปีเลยทีเดียว แต่อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ ยังมีทางรักษาหากคุณเริ่มหันมาดูแลตัวเองแต่เนิ่นๆ คุณอาจดูเด็กลงถึง 20 ปีก็เป็นได้
5 อันดับ ที่สุดของริ้วรอยที่ทำให้คุณดูแก่เรียงลำดับจากน้อยไปมาก
• รองอันดับที่ 4 – รอยตีนกา : อายุเพิ่มขึ้น +2 ปี
• รองอันดับที่ 3 – ร่องลึก : อายุเพิ่มขึ้น +3 ปี
• รองอันดับที่ 2 – ริ้วรอยรอบดวงตา : อายุเพิ่มขึ้น +4 ปี
• รองอันดับที่ 1 – แก้มย้วย : อายุเพิ่มขึ้น +5 ปี
• ชนะเลิศที่สุดแห่งริ้วรอยที่ทำให้ดูแก่ มงลงที่ – เหนียงหรือคางสองชั้น : อายุเพิ่มขึ้น +6 ปี
รองอันดับที่ 4 – รอยตีนกา : อายุเพิ่มขึ้น +2 ปี
รอยตีนกาเกิดจากผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินที่ช่วยสร้างความยืดหยุ่นและความแข็งแรงแก่ผิวลดลง รวมถึงการหดตัวของกล้ามเนื้อขณะแสดงอารมณ์ทางใบหน้า ได้แก่ ยิ้ม หัวเราะ หรี่ตา ขมวดคิ้ว ซึ่งเมื่อแสดงอารมณ์ทางสีหน้า ริ้วรอยต่างๆ ก็จะมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้อายุเพิ่มขึ้นถึง 2 ปี
รอยตีนการักษาได้ด้วย : ‘Botulinum toxin’ ซึ่งเป็นการลดรอยตีนกาและรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ทางใบหน้า โดยจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่มีริ้วรอย ป้องกันการหดตัวของกล้ามเนื้อ และช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น
รองอันดับที่ 3 – ร่องลึก : อายุเพิ่มขึ้น +3 ปี
ร่องลึกเกิดจากคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวลดลงทำให้ผิวยุบตัวเกิดเป็นร่องลึก ได้แก่ บริเวณร่องแก้ม ร่องจมูก และร่องปากชัดขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่มักเกิดปัญหานี้ได้เร็วกว่าผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงที่มีปัญหาร่องลึกมีอายุเพิ่มขึ้น 3 ปี
ร่องลึกรักษาได้ด้วย : ‘Skin Lift 6D’ เลเซอร์และนวัตกรรมแรกที่สามารถรักษาลงลึกสู่ผิวชั้น ‘Mucosa’ ภายในกระพุ้งแก้ม เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและรักษาริ้วรอยร่องแก้ม ร่องจมูก และร่องปากได้อย่างสัมฤทธิ์ผล
รองอันดับที่ 2 – ริ้วรอยรอบดวงตา : อายุเพิ่มขึ้น +4 ปี
ผิวรอบดวงตาเป็นบริเวณที่ละเอียดอ่อนและบอบบางที่สุดบนใบหน้าและมีปัญหาหลายอย่าง ซึ่งทำให้อายุเพิ่มขึ้นถึง 4 ปี ได้แก่
– ริ้วรอยใต้ตา > เกิดจากคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวถูกทำลาย ทำให้ผิวเสียความยืดหยุ่นไม่กระชับ เกิดริ้วรอย โดยเฉพาะบริเวณหางตา ใต้ตา และรอบดวงตา
– รอยหมองคล้ำรอบดวงตา > เกิดจากการที่เลือดไหลเวียนไม่ดี การสะสมของเม็ดสีเมลานิน หรือการระคายเคืองของผิวบริเวณใต้ตา
– ถุงใต้ตา > เกิดจากการสะสมของน้ำและไขมันรอบดวงตา ยิ่งสะสมมากเท่าไหร่น้ำหนักและขนาดถุงใต้ตายิ่งเพิ่มมากขึ้นจนเห็นได้ชัด
ริ้วรอยรอบดวงตารักษาได้ด้วย : ‘Filling substance’ ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รองอันดับที่ 1 – แก้มย้วย : อายุเพิ่มขึ้น +5 ปี
แก้มหลวมย้วยห้อยย้อย หน้ากลม หน้าใหญ่ เกิดขึ้นหลังจากวัยกลางคนขึ้นไป ทำให้รูปหน้าจากวีเชฟเข้ารูปกลายเป็นหน้าสี่เหลี่ยม พร้อมผิวหน้าที่หย่อนคล้อยไม่เรียบเนียนตึงกระชับเหมือนตอนหนุ่มสาว เนื่องจากถูกแรงดึงดูดของโลกดึงรั้งมาเป็นเวลานาน อิลาสตินลดลงและแก้มห้อยลงมากองอยู่บริเวณสันของคางลักษณะคล้ายถุงทำให้ดูอายุเพิ่มขึ้นถึง 5 ปี
แก้มย้วยรักษาได้ด้วย : ‘Ultherapy’ และ ‘Hifu’ เทคโนโลยีในการยกผิว เก็บกรอบหน้าให้คมชัด เต่งตึงกระชับ ด้วยคลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ชนิดเจาะจง (Focused Ultrasound) และทำให้หน้าดูเด็กลงตั้งแต่หลังรักษา
ชนะเลิศที่สุดแห่งริ้วรอยที่ทำให้ดูแก่ มงลงที่ – เหนียงหรือคางสองชั้น : อายุเพิ่มขึ้น +6 ปี
ที่สุดแห่งริ้วรอยที่ทำให้เพิ่มแก่ขึ้นถึง 6 ปี คือ เหนียงหรือคางสองชั้น ซึ่งเป็นไขมันใต้ผิวหนังที่สะสมบริเวณใต้คาง เกิดจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ แต่คางสองชั้นไม่ได้เกิดกับคนอ้วนเพียงอย่างเดียวยังเกิดจากวัยที่เพิ่มอีกขึ้นด้วย ดังเช่นคำว่า ‘แก่จนเหนียงยาน’ ซึ่งส่งผลให้แลดูอายุเพิ่มขึ้นถึง 6 ปีทีเดียว
เหนียงและคางสองชั้นรักษาได้ด้วย : ‘Thermage FLX’ เทคโนโลยีกระชับแก้มเหนียง ซึ่งใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Capacitive Monopolar Radiofrequency) ในการช่วยลดไขมันและกระชับเหนียงให้ใบหน้าได้รูปมีมิติโดยไม่ต้องผ่าตัด
ทราบครบทั้ง 5 ที่สุดของริ้วรอยแล้ว คุณมีริ้วรอยหรือกังวลบริเวณใดเป็นพิเศษบ้าง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาได้นะคะ แล้วเราจะมีอายุเป็นเพียงตัวเองไปด้วยกันค่ะ 😉